Logo-CPF-small-65png
การป้องกันโรคในฟาร์ม

การป้องกันโรคในฟาร์ม และ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและทำได้จริง

การป้องกันโรคในฟาร์ม และ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและ ทำได้จริง

โรคอุบัติใหม่ เป็นโรคที่เพิ่งปรากฏขึ้น และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และเศรษฐกิจ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับโรคอุบัติใหม่หลายชนิด เช่น ไวรัส SARS ไวรัส MERS และไวรัส COVID-19 โรคเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบร้ายแรง สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน ให้กับธุรกิจฟาร์มเป็นอย่างมาก

ดังนั้นการที่เราจะป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เราสามารถใช้เทคโนโลยี มาช่วยตรวจจับ และป้องกัน ได้ โดยสามารถ แบ่งออกเป็น 4 อย่างดังนี้

การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด

Strict Farm Biosecurity หรือ การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด เป็นแนวทางปฏิบัติที่เกษตรกรใช้เพื่อป้องกันโรคติดต่อเข้าสู่ฟาร์ม โดยเน้นการควบคุมการเข้าออกของคน สัตว์ ยานพาหนะ และวัสดุต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

หลักการสำคัญของ Strict Farm Biosecurity:

  • การกั้นเขต: แยกฟาร์มออกจากพื้นที่อื่น ๆ ด้วยรั้ว ประตู และป้ายเตือน
  • การควบคุมการเข้าออก: กำหนดจุดเข้าออกฟาร์มเพียงจุดเดียว ตรวจสอบบุคคล สัตว์ ยานพาหนะ และวัสดุต่าง ๆ ก่อนเข้าฟาร์ม เช่น ฆ่าเชื้อรองเท้า ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้า
  • การสุขาภิบาล: ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และกำจัดขยะในฟาร์มเป็นประจำ เช่น ล้างคอกสัตว์ ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ กำจัดขยะติดเชื้อ
  • การดูแลสัตว์: ตรวจสุขภาพสัตว์เป็นประจำ ฉีดวัคซีน และใช้ยาป้องกันโรค
  • การฝึกอบรม: ฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ และทักษะในการป้องกันโรค เช่น วิธีการฆ่าเชื้อ วิธีการดูแลสัตว์ วิธีการกำจัดขยะติดเชื้อ

ประโยชน์ของ Strict Farm Biosecurity:

  • ลดความเสี่ยงจากโรค: การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อเข้าสู่ฟาร์ม
  • ป้องกันความสูญเสีย: การป้องกันโรค ช่วยป้องกันสัตว์ป่วย ตาย ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
  • เพิ่มผลผลิต: สัตว์ที่สุขภาพดี เจริญเติบโต ให้ผลผลิตสูง
  • รักษาชื่อเสียง: ฟาร์มที่มีการป้องกันโรคที่ดี สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รักษาชื่อเสียงของฟาร์ม

ชีวภาพเซ็นเซอร์ :

  • ชีวภาพเซ็นเซอร์ (Biosensors) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณทางชีวภาพของสัตว์ เช่น อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ พฤติกรรมการกินอาหาร กิจกรรมประจำวัน
  • สัตว์ที่เชื่อมต่อ (Connected Animals) หมายถึงการติดตั้งชีวภาพเซ็นเซอร์กับสัตว์ ส่งข้อมูลไปยังระบบออนไลน์ เช่น คลาวด์ (Cloud) เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของสัตว์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือคอมพิวเตอร์

การทำงานของ Biosensors and Connected Animals:

  1. ติดตั้งชีวภาพเซ็นเซอร์: ชีวภาพเซ็นเซอร์จะถูกติดตั้งกับสัตว์ โดยทั่วไปจะติดตั้งใต้มือหนัง หรือใส่ปลอกคอ
  2. เก็บข้อมูล: ชีวภาพเซ็นเซอร์จะเก็บข้อมูลทางชีวภาพของสัตว์ เช่น อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ พฤติกรรมการกินอาหาร กิจกรรมประจำวัน
  3. ส่งข้อมูล: ข้อมูลจากชีวภาพเซ็นเซอร์จะถูกส่งผ่านสัญญาณไร้สาย ไปยังระบบออนไลน์ เช่น คลาวด์ (Cloud)
  4. วิเคราะห์ข้อมูล: ระบบออนไลน์จะวิเคราะห์ข้อมูล แสดงผลบนแอปพลิเคชัน หรือคอมพิวเตอร์ เกษตรกรสามารถดูข้อมูลสุขภาพของสัตว์ ติดตามการเปลี่ยนแปลง และรับการแจ้งเตือนเมื่อสัตว์มีอาการผิดปกติ

ประโยชน์ของ Biosensors and Connected Animals:

  • ติดตามสุขภาพสัตว์แบบเรียลไทม์: เกษตรกรสามารถติดตามข้อมูลสุขภาพของสัตว์ได้ตลอดเวลา ช่วยให้ตรวจจับความผิดปกติได้รวดเร็ว
  • ป้องกันโรค: ระบบแจ้งเตือนเมื่อสัตว์มีอาการผิดปกติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถรักษาโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ลดความสูญเสีย
  • เพิ่มผลผลิต: สัตว์ที่สุขภาพดี เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตสูง
  • ลดต้นทุน: การป้องกันโรค ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสัตว์
  • การจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ: ข้อมูลจากชีวภาพเซ็นเซอร์ ช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจในการดูแลจัดการฟาร์มได้อย่างแม่นยำ

ตัวอย่างการใช้งาน Biosensors and Connected Animals:

  • ติดตามอุณหภูมิร่างกาย: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ป่วยไข้ หรือสัตว์ที่อยู่ในภาวะเครียด
  • ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ หรือระบบทางเดินหายใจ
  • ติดตามพฤติกรรมการกินอาหาร: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่ป่วย หรือสัตว์ที่เครียด
  • ติดตามกิจกรรมประจำวัน: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือสัตว์ที่อยู่ในภาวะเครียด

การลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์

การใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์อย่างพร่ำเพรื่อ หรือว่ามากเกิน และการใช้งานโดยไม่รู้จักการจำกัด จะก่อให้เกิดปัญหา ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ส่งผลต่อสุขภาพของทั้งมนุษย์และสัตว์

ดังนั้น จึงมีการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ ในการป้องกันและรักษาโรคในสัตว์โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

ที่ให้ผลระยะยาวที่ดีกว่า และ ลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา หรือเกิดเชื้อดื้อยาในฟาร์ม

  1. วัคซีน mRNA และ MLV:
  • วัคซีน mRNA ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคเฉพาะชนิด
  • วัคซีน MLV ใช้เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่อ่อนแอลงเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  1. โพรไบโอติกส์:
  • โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร
  • โพรไบโอติกส์สามารถช่วยป้องกันโรคติดเชื้อในสัตว์ และป้องกันการก่อโรคได้
  1. โครงสร้างโลหะอินทรีย์ (MOFs):
  • MOFs เป็นวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถดูดซับสารพิษและแบคทีเรียที่ก่อโรค

ข้อดี:

  • ลดปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะ
  • ปลอดภัยต่อสัตว์และมนุษย์
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การรักษาโรคหรืออาการผิดปกติในสัตว์โดยไม่ต้องผ่าตัด

 ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การผ่าตัดมักเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาโรคหรืออาการผิดปกติ มีวิธีการรักษาอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยให้สัตว์หายป่วยโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด

วิธีการเหล่านี้มีดังนี้:

  1. ยา:
  • ยาสามารถใช้รักษาโรคติดเชื้อ อาการปวด การอักเสบ และอาการผิดปกติอื่นๆ
  • ยามีหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด ยาฉีด ยาหยอดตา และยาทา
  1. อาหารเสริม:
  • อาหารเสริมสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของสัตว์
  • อาหารเสริมบางชนิดสามารถช่วยรักษาโรคหรืออาการผิดปกติบางประเภท
  • ตัวอย่างอาหารเสริม เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรไบโอติกส์
  1. กายภาพบำบัด:
  • กายภาพบำบัดสามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือผ่าตัด
  • กายภาพบำบัดยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ
  1. การฝังเข็ม:
  • การฝังเข็มเป็นการแพทย์แผนจีนโบราณที่ใช้เข็มขนาดเล็กกระตุ้นจุดฝังเข็มบนร่างกาย
  • การฝังเข็มสามารถช่วยรักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท
  • การฝังเข็มได้รับความนิยมมากขึ้นในสัตวแพทย์
  1. การรักษาด้วยเลเซอร์:
  • การรักษาด้วยเลเซอร์ใช้แสงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการรักษาและลดอาการปวด
  • การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถใช้รักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท
  1. การรักษาด้วยโอโซน:
  • การรักษาด้วยโอโซนใช้โอโซนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
  • การรักษาด้วยโอโซนยังสามารถช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
  1. การรักษาด้วยสมุนไพร:
  • สมุนไพรบางชนิดสามารถใช้รักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท
  • อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรกับสัตว์

ข้อดีของการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด:

  • ไม่ต้องดมยาสลบ
  • ฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • มีความเสี่ยงน้อยลง
  • มักมีราคาถูกกว่าการผ่าตัด

เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ วิธีการ ลดความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ หลักๆ จะมี 4 อย่างด้วยกัน คือ

  • การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด
  • การใช้ ชีวภาพเซ็นเซอร์ ติดที่สัตว์
  • การลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์
  • การรักษาโรคหรืออาการผิดปกติในสัตว์โดยไม่ต้องผ่าตัด

ถ้าเพื่อนๆ ผู้บริหารฟาร์ม สังเกต จะเห็นว่าเป็นการเรียงลำดับ จาก ตั้งแต่การควบคุมการเข้ามา หรือว่า ป้องกันตั้งแต่ ก่อนเข้าฟาร์มเลย เมื่อเข้าฟาร์มมาแล้ว ก็มีการตรวจสอบจาก เซ็นเซอร์ที่ติดกับสัตว์ การป้องกัน ในเรื่องของอาหาร ที่มีการเพิ่ม ส่วนของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์กับสัตว์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และเมื่อเกิดโรค แล้ว เราจะ ดูแลสัตว์อย่างไร โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด

เทคโนโลยี ต่างๆ มีส่วนในการป้องกัน และแจ้งให้กับผู้ดูแล ทราบ เพื่อจะสามารถแก้ไข หากมีปัญหาเกิดขึ้น ได้ทันที หากเพื่อนๆ เกษตรกร เจ้าของฟาร์มท่านใด สนใจ สามารถ เข้ามาอ่านรายละเอียดในแต่ละส่วนได้เลย สำหรับเรื่องเกี่ยวกับ การป้องกันโรคในฟาร์ม สามารถดูได้ที่นี่

มีความสุขกับฟาร์ม และผลผลิตเติบโตไปด้วยกันนะ ^^ สวัสดีครับ ติดตามเราได้ทาง Facebook ยูทูป

แชร์

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ. (เรียนรู้เพิ่มเติม)