Logo-CPF-small-65png

กากถั่วเหลืองปลอดรุกป่า “ล็อตแรก” จากบราซิล ถึงไทยแล้ว

  บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บังกี้ จำกัด (BUNGE) คู่ค้ารายใหญ่ระดับโลก ส่งมอบ “กากถั่วเหลืองปลอดรุกพื้นที่ป่า” จากบราซิลถึงไทย “ล็อตแรก” จำนวน 185,000 ตัน ผ่านการเชื่อมต่อระบบตรวจสอบย้อนกลับของทั้งสองบริษัท และเพิ่มความโปร่งใสด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรอย่างรับผิดชอบ มาจากแหล่งที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า ร่วมปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ   บริษัท บังกี้ จำกัด (NYSE: BG) (“บังกี้”) และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) หรือ บีเคพี ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักอาหารสัตว์ให้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ความสำเร็จของความร่วมมือในการจัดหาถั่วเหลือง และวัตถุดิบจากถั่วเหลืองอย่างรับผิดชอบ ผ่านการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแปลงปลูกของเกษตรกรในบราซิล โดยดำเนินการทดสอบการเชื่อมต่อระหว่างการส่งมอบกากถั่วเหลืองจากบราซิลจำนวน 185,000 ตัน ซึ่งเดินทางถึงประเทศไทยในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2567 นี้ นับเป็นถั่วเหลือง “ตู้แรก” จากบราซิล ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแปลงปลูกของเกษตรกรเป็นพื้นที่ที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า รวมทั้งเพิ่มความโปร่งใสตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน นอกจากนี้ บังกี้ยังเตรียมส่งมอบถั่วเหลืองปลอดการบุกรุกป่าอีกกว่า 180,000 ตันภายในเดือนกรกฎาคมนี้    นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงเทพโปรดิ๊วส กล่าวว่า ความร่วมมือกับ บังกี้ รวมทั้งขยายผลไปถึงซัพพลายเออร์ และเกษตรกรทั่วโลก ผ่านการเชื่อมต่อระบบตรวจสอบย้อนกลับของสองบริษัทด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้กรุงเทพโปรดิ๊วสสามารถติดตามถั่วเหลืองตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ การระบุแปลงเพาะปลูก การแปรรูป และการขนส่งจนถึงโรงงานอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของกรุงเทพโปรดิ๊วสในการจัดหาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของซีีพีเอฟด้านการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนและแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติตามความมุ่งมั่นว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและการต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าตลอดห่วงโซ่อุปทาน   ทั้งนี้ แพลตฟอร์มการตรวจสอบย้อนกลับถั่วเหลืองยังช่วยให้กรุงเทพโปรดิ๊วสสามารถเข้าถึงข้อมูลการผลิตถั่วเหลือง เช่น ปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากห่วงโซ่อุปทานถั่วเหลือง รวมถึงการยืนยันข้อมูลของแปลงปลูกที่ประยุกต์ใช้ระบบเกษตรกรรมฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) เป็นต้น สำหรับการขับเคลื่อนสู่ Net-Zero ต่อไป   “การส่งกากถั่วเหลืองปลอดรุกพื้นที่ล็อตแรก ที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นทางแหล่งเพาะปลูกในบราซิลจนถึงปลายทางที่ประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญกรุงเทพโปรดิ๊วส สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการจัดการห่วงโซ่อุปทานของซีพีเอฟให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ยืนยันว่าวัตถุดิบอาหารสัตว์มาจากห่วงโซ่ที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่าได้ 100% ภายในปี 2025” นายไพศาล กล่าวเสริม   การส่งมอบกากถั่วเหลืองที่ปลอดจากการบุกรุกป่า เป็นผลจากการความร่วมมือระหว่างบังกี้ และกรุงเทพโปรดิ๊วสในด้านเทคนิค การค้า และการเชื่อมต่อระบบตรวจสอบย้อนกลับกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานถั่วเหลืองที่รับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุม การจัดหาเมล็ดพืชน้ำมัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเมล็ดพืชน้ำมันที่บังกี้จัดหาในบราซิล สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซีพีเอฟในประเทศไทย และกิจการในต่างประเทศ   ด้าน นายโรสซาโน ดิ อันเจลิส จูเนียร รองประธานฝ่ายธุรกิจการเกษตรเขตอเมริกาใต้ ของ บังกี้ กล่าวว่า ความร่วมมือของบังกี้กับซีพีเอฟ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและเพิ่มความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานถั่วเหลือง ซึ่งบังกี้ได้กำหนดและพัฒนาการจัดหาถั่วเหลืองที่ตรวจสอบย้อนกลับได้มาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนให้กับตลาดที่ต้องการสินค้าที่มาจากการจัดหาอย่างรับผิดชอบ   ระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาถั่วเหลืองของบังกี้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกในทวีปอเมริกาใต้กว่า 16,000 แปลง หรือประมาณ 20 ล้านเฮกตาร์ ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการระบุและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและการปลูกถั่วเหลืองในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ บังกี้ กำหนดเป้าหมายสามารถตรวจสอบย้อนกลับถั่วเหลืองที่จัดหาในทางตรงและทางอ้อมในบราซิลปลอดการตัดไม้ทำลายป่าได้ภายในปี 2025 ปัจจุบัน ร้อยละ 97 ของปริมาณถั่วเหลืองที่จัดหาจากพื้นที่เสี่ยงของบังกี้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า และการเปลี่ยนแปลงในการใช้ที่ดินอย่างโปร่งใส  

กากถั่วเหลืองปลอดรุกป่า “ล็อตแรก” จากบราซิล ถึงไทยแล้ว Read More »

การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์

การพลิกโฉมการจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และปลอดภัย

การพลิกโฉม การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยี IoT เพื่อจัดการฟาร์ม ให้มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 4 อย่างนี้ Precision Farming : คือการบริหารจัดการงาน ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ด้วยและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) IoT หุ่นยนต์ เพื่อดูแลสัตว์อย่างแม่นยำ หลักการสำคัญของ Precision Farming  คือ : การเก็บข้อมูลของสัตว์: เกษตรกรใช้เซ็นเซอร์ กล้องวงจรปิด และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ ความชื้นในดิน สุขภาพสัตว์ อัตราการเติบโต ทั้งนี้การเก็บข้อมูล ก็จะมีทั้งในส่วนของ สัตว์ และโรงเรือน เพื่อการปรับสภาวะ ให้เหมาะสมกับการเลี้ยง เช่น การปรับปรุงโรงเรือน สำหรับเลี้ยงไก่ เพื่อให้มีสภาพอากาศ ที่เหมาะสม ไม่ร้อน ไม่เย็นเกินไป ความชื้น การให้อาหาร การให้น้ำ ให้พอเพียง การทำงานของพัดลมระบายอากาศ การควบคุมแสงสว่างภายในโรงเรือน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราสามารถใช้ Iot หรือระบบที่ช่วยการเลี้ยงได้แบบอัตโนมัติ แต่ต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ส่วนของ ตัววัดต่างๆ เพื่อส่งข้อมูลเข้าไป ทำให้ ระบบ AI ประมวลผล เพื่อ ปิด เปิด หรือปรับ สภาวะต่างๆ ให้เหมาะสมต่อไป เพื่อให้เจ้าของฟาร์ม ทำหน้าที่ ที่สำคัญอื่นๆ การวิเคราะห์ข้อมูล: เกษตรกรใช้คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา ทั้งนี้ เมื่อเรามีข้อมูลที่ จะนำมาวิเคราะห์ แล้ว ระบบ จะ ทำการคำนวณ และแนะนำ หรือ แสดง ข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ต่อไป การตัดสินใจอย่างแม่นยำ: ข้อมูลที่วิเคราะห์ ช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เช่น การให้น้ำ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ ในปริมาณที่เหมาะสม และตรงตามความต้องการของสัตว์แต่ละตัว ทั้งนี้การดูแลฟาร์มเมื่อก่อน ถ้าไม่มี ระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการตัดสินใจ อาจจะต้องใช้เวลานานในการ ตัดสินใจปรับเปลี่ยน หรืออาจจะสายเกินไปในการแก้ไข ดังนั้นการใช้งานระบบ จะเป็นตัวช่วยอย่างดีใน การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตรวจสอบ จัดการ และควบคุมการดำเนินงานฟาร์มของคุณโดยไม่ต้องอยู่ในฟาร์มจริง ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนจากมนุษย์ เพื่อนๆ เกษตรกร เจ้าของฟาร์มหลายๆ ท่าน หลังจากที่ผ่าน ช่วงของการมีโรคระบาดมาแล้ว จะเห็นได้ว่า ระบบที่ ทำให้มีการปนเปื้อนจากภายนอก น้อย ที่สุด หรือไม่มีเลย เป็นทางเลือกที่ดี และปลอดภัย มาก หากให้มีการปนเปื้อนจากคนน้อยที่สุด นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของการควบคุมดูแล หรือว่าการมอนิเตอร์ การทำงาน และการแจ้งเตื่อนต่างๆ ถ้าผู้บริหารฟาร์ม หรือผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้รับการแจ้งเตือนทันท่วงที่ ก็จะ เข้ามา แก้ไข ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทำให้ ลดความศูนย์เสีย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้แล้ว ถ้าใช้งาน ระบบ Iot หรือมีระบบ ในการจัดการที่สามารถ ดูแล หรือตรวจสอบได้ทางอินเตอร์เน็ต จะช่วยเป็นอย่างมากให้ สามารถ ควบคุม หรือ ทำงานระยะไกลได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และป้องกันปัญหาได้อย่างดี การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์จากสัตว์ วิเคราะห์ คาดการณ์ และแนะนำการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในปัจจุบัน ข้อมูล และการตัดสินใจ เป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการวางแนวทาง หรือกำหนดแนวทางในการทำงาน หรือ แนวทางของฟาร์ม ดังนั้น หากเรามีข้อมูล ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย การกำหนดแนวทาง ในการบริหารฟาร์ม จะทำได้ง่าย และทำได้จากทุกที่ การเชื่อมต่อความเร็วสูง ครอบคลุมทั้งพื้นที่ เพื่อส่งต่อข้อมูล ระบบเทคโนโลยี IoT มีความจำเป็นที่ต้องใช้ระบบ อินเตอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อ และส่งข้อมูลดังนั้น ระบบ การเชื่อมต่อเป็นระบบที่สำคัญ มากๆ หากต้องการให้ ทุกระบบ เชื่อมต่อเข้าหากัน จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่า ถ้าเรา ต้องการจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า เราจำเป็นที่จะต้อง มีระบบพื้นฐาน ตามข้างต้นเพื่อการทำงาน และการบริหารจัดการฟาร์มที่ครอบคลุม และสามารถ จัดการฟาร์มของเรา ได้จาก ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ต ข้อดี: เพิ่มผลผลิต: เกษตรกรสามารถดูแลสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สัตว์มีสุขภาพดี เติบโตเร็ว ให้ผลผลิตมากขึ้น ลดต้นทุน: เกษตรกรสามารถประหยัดน้ำ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ และพลังงาน ลดความสูญเสีย: การป้องกันโรคที่ดี ช่วยลดความสูญเสียจากสัตว์ป่วย ตาย เพิ่มคุณภาพสินค้า: สัตว์ที่ได้รับการดูแลอย่างดี มีสุขภาพดี ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ลดแรงงานคน: เทคโนโลยีช่วยลดงานที่ต้องใช้แรงงานคน เกษตรกรมีเวลาดูแลงานอื่น ๆ มากขึ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ: ข้อมูลที่รวบรวมจาก Precision Farming ช่วยให้เกษตรกรสามารถวิเคราะห์ตลาด วางแผนการผลิต หาช่องทางจำหน่ายสินค้า เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ในการเริ่มต้น เพื่อสร้างระบบอาจจะพบปัญหาดังนี้ เรื่องของต้นทุน : เทคโนโลยีที่ใช้ใน การจัดการฟาร์ม อาจจะมี ราคาค่อนข้างสูง หรือสามารถเข้าถึงได้ฟรี เกษตรกร เจ้าของ และผู้บริหารฟาร์ม อาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษา เพื่อเลือก ประเภทให้เหมาะสมกับฟาร์ม และขนาดฟาร์ม ความซับซ้อน: การใช้งานเทคโนโลยีบางอย่างอาจมีความซับซ้อน เกษตรกรจำเป็นต้องมีความรู้ และทักษะในการใช้งาน แนะนำว่า ถ้าต้องการใช้งาน ให้เลือกผู้ที่สามารถแนะนำ และแก้ปัญหาได้ หรือ ให้ทาง ผู้บริหารฟาร์ม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ศึกษาระบบ เพราะถ้ามีปัญหา จะได้สามารถแก้ปัญหา เบื้องต้นได้ สรุป:เทคโนโลยี ใหม่ๆ ระบบ IoT และระบบ AI มีประโยชน์มากมายสำหรับเกษตรกร ผู้บริหาร และเจ้าของฟาร์ม แต่เกษตรกรจำเป็นต้อง พิจารณาข้อดี และข้อเสียอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจนำไปใช้กับฟาร์ม อาจจะลองใช้งานระบบการบันทึกข้อมูลฟรี ที่มีให้ใช้งานก่อน และเมื่อเห็นว่ามีประโยชน์ จึงทำการปรับเปลี่ยน หรือว่าเพิ่มอุปกรณ์ ต่างๆที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเข้าไป เพื่อพัฒนาระบบ ที่มีอยู่ให้ดีขึ้น หรือหากจำเป็นต้องเปลี่ยน ก็ควรเลือกระบบที่ น่าเชื่อถือ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประหยัด ค่าใช้จ่ายการทำระบบฟาร์ม  เรื่องเกี่ยวกับการจัดการฟาร์ม : สามารถดูได้ที่ หมวดหมู่ การจัดการฟาร์มสมัยใหม่ เพิ่มเติมได้เลยครับ ติดตามสาระดีๆ เรื่องฟาร์ม เพิ่มเติมได้ที่ Facebook | Youtube

การพลิกโฉมการจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และปลอดภัย Read More »

การป้องกันโรคในฟาร์ม

การป้องกันโรคในฟาร์ม และ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและทำได้จริง

การป้องกันโรคในฟาร์ม และ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและ ทำได้จริง โรคอุบัติใหม่ เป็นโรคที่เพิ่งปรากฏขึ้น และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และเศรษฐกิจ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับโรคอุบัติใหม่หลายชนิด เช่น ไวรัส SARS ไวรัส MERS และไวรัส COVID-19 โรคเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบร้ายแรง สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน ให้กับธุรกิจฟาร์มเป็นอย่างมาก ดังนั้นการที่เราจะป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เราสามารถใช้เทคโนโลยี มาช่วยตรวจจับ และป้องกัน ได้ โดยสามารถ แบ่งออกเป็น 4 อย่างดังนี้ การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด Strict Farm Biosecurity หรือ การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด เป็นแนวทางปฏิบัติที่เกษตรกรใช้เพื่อป้องกันโรคติดต่อเข้าสู่ฟาร์ม โดยเน้นการควบคุมการเข้าออกของคน สัตว์ ยานพาหนะ และวัสดุต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด หลักการสำคัญของ Strict Farm Biosecurity: การกั้นเขต: แยกฟาร์มออกจากพื้นที่อื่น ๆ ด้วยรั้ว ประตู และป้ายเตือน การควบคุมการเข้าออก: กำหนดจุดเข้าออกฟาร์มเพียงจุดเดียว ตรวจสอบบุคคล สัตว์ ยานพาหนะ และวัสดุต่าง ๆ ก่อนเข้าฟาร์ม เช่น ฆ่าเชื้อรองเท้า ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้า การสุขาภิบาล: ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และกำจัดขยะในฟาร์มเป็นประจำ เช่น ล้างคอกสัตว์ ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ กำจัดขยะติดเชื้อ การดูแลสัตว์: ตรวจสุขภาพสัตว์เป็นประจำ ฉีดวัคซีน และใช้ยาป้องกันโรค การฝึกอบรม: ฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ และทักษะในการป้องกันโรค เช่น วิธีการฆ่าเชื้อ วิธีการดูแลสัตว์ วิธีการกำจัดขยะติดเชื้อ ประโยชน์ของ Strict Farm Biosecurity: ลดความเสี่ยงจากโรค: การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อเข้าสู่ฟาร์ม ป้องกันความสูญเสีย: การป้องกันโรค ช่วยป้องกันสัตว์ป่วย ตาย ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เพิ่มผลผลิต: สัตว์ที่สุขภาพดี เจริญเติบโต ให้ผลผลิตสูง รักษาชื่อเสียง: ฟาร์มที่มีการป้องกันโรคที่ดี สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รักษาชื่อเสียงของฟาร์ม ชีวภาพเซ็นเซอร์ : ชีวภาพเซ็นเซอร์ (Biosensors) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณทางชีวภาพของสัตว์ เช่น อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ พฤติกรรมการกินอาหาร กิจกรรมประจำวัน สัตว์ที่เชื่อมต่อ (Connected Animals) หมายถึงการติดตั้งชีวภาพเซ็นเซอร์กับสัตว์ ส่งข้อมูลไปยังระบบออนไลน์ เช่น คลาวด์ (Cloud) เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของสัตว์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ การทำงานของ Biosensors and Connected Animals: ติดตั้งชีวภาพเซ็นเซอร์: ชีวภาพเซ็นเซอร์จะถูกติดตั้งกับสัตว์ โดยทั่วไปจะติดตั้งใต้มือหนัง หรือใส่ปลอกคอ เก็บข้อมูล: ชีวภาพเซ็นเซอร์จะเก็บข้อมูลทางชีวภาพของสัตว์ เช่น อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ พฤติกรรมการกินอาหาร กิจกรรมประจำวัน ส่งข้อมูล: ข้อมูลจากชีวภาพเซ็นเซอร์จะถูกส่งผ่านสัญญาณไร้สาย ไปยังระบบออนไลน์ เช่น คลาวด์ (Cloud) วิเคราะห์ข้อมูล: ระบบออนไลน์จะวิเคราะห์ข้อมูล แสดงผลบนแอปพลิเคชัน หรือคอมพิวเตอร์ เกษตรกรสามารถดูข้อมูลสุขภาพของสัตว์ ติดตามการเปลี่ยนแปลง และรับการแจ้งเตือนเมื่อสัตว์มีอาการผิดปกติ ประโยชน์ของ Biosensors and Connected Animals: ติดตามสุขภาพสัตว์แบบเรียลไทม์: เกษตรกรสามารถติดตามข้อมูลสุขภาพของสัตว์ได้ตลอดเวลา ช่วยให้ตรวจจับความผิดปกติได้รวดเร็ว ป้องกันโรค: ระบบแจ้งเตือนเมื่อสัตว์มีอาการผิดปกติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถรักษาโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ลดความสูญเสีย เพิ่มผลผลิต: สัตว์ที่สุขภาพดี เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตสูง ลดต้นทุน: การป้องกันโรค ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสัตว์ การจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ: ข้อมูลจากชีวภาพเซ็นเซอร์ ช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจในการดูแลจัดการฟาร์มได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างการใช้งาน Biosensors and Connected Animals: ติดตามอุณหภูมิร่างกาย: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ป่วยไข้ หรือสัตว์ที่อยู่ในภาวะเครียด ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ หรือระบบทางเดินหายใจ ติดตามพฤติกรรมการกินอาหาร: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่ป่วย หรือสัตว์ที่เครียด ติดตามกิจกรรมประจำวัน: ช่วยให้เกษตรกรตรวจจับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือสัตว์ที่อยู่ในภาวะเครียด การลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์อย่างพร่ำเพรื่อ หรือว่ามากเกิน และการใช้งานโดยไม่รู้จักการจำกัด จะก่อให้เกิดปัญหา ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ส่งผลต่อสุขภาพของทั้งมนุษย์และสัตว์ ดังนั้น จึงมีการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ ในการป้องกันและรักษาโรคในสัตว์โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ที่ให้ผลระยะยาวที่ดีกว่า และ ลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา หรือเกิดเชื้อดื้อยาในฟาร์ม วัคซีน mRNA และ MLV: วัคซีน mRNA ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคเฉพาะชนิด วัคซีน MLV ใช้เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่อ่อนแอลงเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน โพรไบโอติกส์: โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร โพรไบโอติกส์สามารถช่วยป้องกันโรคติดเชื้อในสัตว์ และป้องกันการก่อโรคได้ โครงสร้างโลหะอินทรีย์ (MOFs): MOFs เป็นวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถดูดซับสารพิษและแบคทีเรียที่ก่อโรค ข้อดี: ลดปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะ ปลอดภัยต่อสัตว์และมนุษย์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรักษาโรคหรืออาการผิดปกติในสัตว์โดยไม่ต้องผ่าตัด  ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การผ่าตัดมักเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาโรคหรืออาการผิดปกติ มีวิธีการรักษาอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยให้สัตว์หายป่วยโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด วิธีการเหล่านี้มีดังนี้: ยา: ยาสามารถใช้รักษาโรคติดเชื้อ อาการปวด การอักเสบ และอาการผิดปกติอื่นๆ ยามีหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด ยาฉีด ยาหยอดตา และยาทา อาหารเสริม: อาหารเสริมสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของสัตว์ อาหารเสริมบางชนิดสามารถช่วยรักษาโรคหรืออาการผิดปกติบางประเภท ตัวอย่างอาหารเสริม เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรไบโอติกส์ กายภาพบำบัด: กายภาพบำบัดสามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือผ่าตัด กายภาพบำบัดยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ การฝังเข็ม: การฝังเข็มเป็นการแพทย์แผนจีนโบราณที่ใช้เข็มขนาดเล็กกระตุ้นจุดฝังเข็มบนร่างกาย การฝังเข็มสามารถช่วยรักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท การฝังเข็มได้รับความนิยมมากขึ้นในสัตวแพทย์ การรักษาด้วยเลเซอร์: การรักษาด้วยเลเซอร์ใช้แสงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการรักษาและลดอาการปวด การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถใช้รักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท การรักษาด้วยโอโซน: การรักษาด้วยโอโซนใช้โอโซนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส การรักษาด้วยโอโซนยังสามารถช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ การรักษาด้วยสมุนไพร: สมุนไพรบางชนิดสามารถใช้รักษาโรคและอาการผิดปกติหลายประเภท อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรกับสัตว์ ข้อดีของการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด: ไม่ต้องดมยาสลบ ฟื้นตัวเร็วขึ้น มีความเสี่ยงน้อยลง มักมีราคาถูกกว่าการผ่าตัด เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ วิธีการ ลดความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ หลักๆ จะมี 4 อย่างด้วยกัน คือ การป้องกันโรคในฟาร์มแบบเข้มงวด การใช้ ชีวภาพเซ็นเซอร์ ติดที่สัตว์ การลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การรักษาโรคหรืออาการผิดปกติในสัตว์โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าเพื่อนๆ ผู้บริหารฟาร์ม สังเกต จะเห็นว่าเป็นการเรียงลำดับ จาก ตั้งแต่การควบคุมการเข้ามา หรือว่า ป้องกันตั้งแต่ ก่อนเข้าฟาร์มเลย เมื่อเข้าฟาร์มมาแล้ว ก็มีการตรวจสอบจาก เซ็นเซอร์ที่ติดกับสัตว์ การป้องกัน ในเรื่องของอาหาร ที่มีการเพิ่ม ส่วนของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์กับสัตว์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และเมื่อเกิดโรค แล้ว เราจะ ดูแลสัตว์อย่างไร โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด เทคโนโลยี ต่างๆ มีส่วนในการป้องกัน และแจ้งให้กับผู้ดูแล ทราบ เพื่อจะสามารถแก้ไข หากมีปัญหาเกิดขึ้น ได้ทันที หากเพื่อนๆ เกษตรกร เจ้าของฟาร์มท่านใด สนใจ สามารถ เข้ามาอ่านรายละเอียดในแต่ละส่วนได้เลย สำหรับเรื่องเกี่ยวกับ การป้องกันโรคในฟาร์ม สามารถดูได้ที่นี่ มีความสุขกับฟาร์ม และผลผลิตเติบโตไปด้วยกันนะ ^^ สวัสดีครับ ติดตามเราได้ทาง Facebook ยูทูป

การป้องกันโรคในฟาร์ม และ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์และคน โดยใช้มาตรการที่ปลอดภัยและทำได้จริง Read More »

ขาดแคลนวัตถุดิบ

4 วิธีการลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ และ อาหารสัตว์ทดแทน

การลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ และ อาหารสัตว์ทดแทน การลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหาร และ วัตถุดิบ หรือการหาอาหารทดแทน ใช้สำหรับฟาร์ม เพื่อป้องกันการขาดอาหาร และความผันผวนของราคาอาหาร ด้วยส่วนผสมทางเลือกที่ราคาไม่แพง อาหารถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ ของการเลี้ยงสัตว์ และเป็นปัจจัยต้นๆ ที่ต้องให้ความสำคัญสำหรับการดูแลฟาร์ม นอกจากนี้แล้ว เจ้าของฟาร์ม และ ผู้ดูแล หรือเพื่อนๆ เกษตรกร ควรที่จะศึกษา หรือ มองหา ทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถ เป็นอาหารสัตว์ได้ มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย 4 อย่างที่สามารถ ลดความเสี่ยงจากการขาดอาหาร และวัตถุดิบ ทางเลือกอาหารทดแทน เปลี่ยนจากวัตถุดิบดั้งเดิมที่จำกัด เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ไปจนถึงทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำ เช่น แมลง สาหร่าย โปรตีนที่เติบโตในห้องทดลอง หรืออาหารสัตว์ ทางเลือกอื่นๆ การใช้โปรไบโอติก พรีไบโอติก เพิ่มสารเติมแต่งบนอาหารสัตว์ปัจจุบันเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพและสวัสดิภาพของสัตว์โดย การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่เหมาะสม จัดหาอาหารที่ เหมาะสมกับช่วงอายุ และเวลา วัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น สัตว์อายุน้อย สัตว์ป่วย ลูกสัตว์ ฯลฯ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ แหมาะสม และตรงกับความต้องการ ของสัตว์วัยนั้นๆ ใช้หลักของโภชนาการแม่นยำ เพราะว่าสัตว์เปลี่ยนแปลงและต้องการโภชนาการที่แตกต่างกันภายใต้เงื่อนไขในขณะนั้น ฟาร์มบางแห่งใช้การวิเคราะห์เวลาและปรับแต่งสูตรอาหารให้สอดคล้องกับ วัย และสภาพ ของสัตว์ และลดการศูนย์เสียจากการขับถ่าย “การลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหารและวัตถุดิบ และความผันผวนของราคาด้วยส่วนผสมทางเลือกที่ราคาไม่แพง” ข้อดี ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ ลดความผันผวนของราคาอาหารสัตว์ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปรับปรุงสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มความยั่งยืนของธุรกิจ ความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงแรก เทคโนโลยีบางอย่างยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา ราคาของเทคโนโลยีบางอย่างยังค่อนข้างสูงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัย เกษตรกรและผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะใหม่ แนวทางปฏิบัติ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือกอาหารสัตว์ที่หลากหลาย พิจารณาความต้องการเฉพาะของสัตว์ ฟาร์ม และงบประมาณ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสัตว์ เริ่มต้นใช้งานทางเลือกอาหารสัตว์ทีละน้อย เพื่อการปรับเปลี่ยนตรวจสอบผลลัพธ์และปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น ทางเลือกอาหารสัตว์เหล่านี้ เป็นแนวทางใหม่ในการลดความเสี่ยง จากการขาดแคลนวัตถุดิบ และความผันผวนของราคา ช่วยให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์สามารถควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ทางเลือกเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม  เพื่อผลักดันให้เทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถเข้าถึงเกษตรกรและผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในวงกว้างมากขึ้น  เพื่อนๆเกษตรกร เจ้าของฟาร์ม และผู้ดูแล สามารถดูเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ ได้ที่นี่ ติดตามสาระและการจัดการฟาร์ม ได้ที่  เฟสบุ๊ค ยูทูป

4 วิธีการลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ และ อาหารสัตว์ทดแทน Read More »

วิถีเกษตรแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน

วิถีเกษตรแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน

วิถีเกษตรแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม โรคระบาด อาหารขาดแคลน การปรับตัวของราคาพลังงาน (ค่าไฟแพงขึ้น) ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ก็มีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบต่อโลกของเรา และทำให้ฟาร์มของเรา เติบโต ได้อย่างยั่งยืน ได้ง่ายๆ ด้วย 4 วิธีนี้ เพื่อนๆ เกษตรกรครับ บทความนี้ จะแนะนำ และนำเสนอแนวทางการเกษตรยั่งยืน ที่จะช่วยให้ฟาร์มของคุณเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ต่อไป  เป็นอย่างไร มีอะไรบ้างมาดูกันเลย พลังงานสะอาด: ขับเคลื่อนฟาร์มด้วยพลังธรรมชาติ ระบบพลังงานไม่ว่าจะ ไฟฟ้า หรือ น้ำ ที่ใช้ในฟาร์มแล้ว แทนที่เราจะพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งภายนอก ฟาร์มของเรา ก็สามารถผลิตพลังงานใช้เองได้ โดยใช้พลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวลจากมูลสัตว์ เพราะว่าทุกฟาร์ม มีพื้นที่ และสามารถผลิตได้อยู่แล้ว การลงทุนในระบบพลังงานหมุนเวียน ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้อีกด้วย เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวางแผน พัฒนา ฟาร์มของเรา จะประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย การขนส่งยั่งยืนลดมลพิษ : เดินทางด้วยพลังงานสะอาด ในปัจจุบัน รถไฟฟ้า หรือ รถรรทุกขนาดเล็ก ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า การขนส่งสินค้าและสัตว์ภายในฟาร์ม สามารถเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า หรือยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดอื่นๆ แทนรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งช่วยลดมลพิษทางอากาศ และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ และแน่นอนว่า เราสามารถใช้พลังงานไฟฟ้า ที่ผลิตได้ในฟาร์ม มาเป็นตัวขับเคลื่อน น้ำคือชีวิต: บริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่า น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่า ยิ่งการทำฟาร์ม หรือทำการเกษตรแล้วหล่ะก็ น้ำเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าฟาร์มของเราสามารถใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการรีไซเคิลน้ำเสียจากฟาร์ม นำกลับมาใช้ใหม่สำหรับการรดน้ำต้นไม้ หรือนำมาใช้เป็นน้ำสำหรับการ ทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งระบบเก็บน้ำฝน เพื่อลดการพึ่งพาน้ำประปา เพื่อนำน้ำมาใช้ ในฟาร์มของเราได้อีกด้วย ตรวจสอบย้อนกลับ: สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับที่มาของอาหาร การตรวจสอบย้อนกลับได้ และรู้ที่มาของสินค้า และวัตถุดิบ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากนี้แล้ว ยังช่วยให้ติดตามที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการขนส่ง กระบวนการดังนี้ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ว่าอาหารที่พวกเขาทานมาจากแหล่งที่ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้ฟาร์มของเรา มีคุณค่ามากขึ้นด้วย เริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงเท่านี้ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อได้ไฟฟ้าทดแทน เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าภายในฟาร์ม ติดตั้งระบบรีไซเคิลน้ำ เข้าร่วมระบบตรวจสอบย้อนกลับ การทำ การเกษตรยั่งยืน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงเริ่มต้นลงมือทำ อนาคตที่ยั่งยืนก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ข้อดีของฟาร์มยั่งยืน นอกเหนือจากประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ฟาร์มยั่งยืนยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย ด้านเศรษฐกิจ: ประหยัดค่าใช้จ่าย: การใช้พลังงานหมุนเวียน การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาปัจจัยการผลิตภายนอก ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้: ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มยั่งยืน มักได้รับการรับรองมาตรฐานจากผู้บริโภค น่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จัก สร้างโอกาสทางธุรกิจ: ตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ยั่งยืนมีแนวโน้มเติบโตสูง ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดมลพิษ: ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มลพิษทางน้ำ มลพิษทางอากาศ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ: น้ำ ดิน ป่าไม้ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ: สนับสนุนระบบนิเวศ สร้างความมั่นคงทางอาหาร: ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหาร ด้านสังคม: ยกระดับคุณภาพชีวิต: สร้างสุขภาพที่ดีให้กับเกษตรกร พนักงาน ผู้บริโภค และชุมชน ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม: สนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ธุรกิจท้องถิ่น สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ให้กับฟาร์มและธุรกิจของคุณ ดึงดูดนักลงทุน: นักลงทุนให้ความสำคัญกับธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยรวมแล้ว ฟาร์มยั่งยืน นำเสนอโมเดลธุรกิจที่ ยั่งยืน: ตอบสนองความต้องการของปัจจุบัน โดยไม่กระทบต่อความต้องการของรุ่นอนาคต ทำกำไร: สร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม: ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน ฟาร์มยั่งยืน จึงเป็นแนวทางที่ควรค่าแก่การพิจารณา สำหรับเกษตรกรที่ต้องการ พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลกำไรอย่างมีจริยธรรม เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขวิกฤตสิ่งแวดล้อม สร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลาน การเกษตรยั่งยืน ไม่ใช่แค่แนวทาง แต่เป็นวิถีชีวิต ที่ช่วยให้ฟาร์มของคุณอยู่รอด และเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขวิกฤตสิ่งแวดล้อม ร่วมสร้างอนาคตที่สดใส ให้กับเกษตรกร ผู้บริโภค และโลกของเรา เราเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าใครก็ สามารถเริ่มทำเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ ฟาร์มของคุณก็เช่นกัน มาช่วยกันทำฟาร์มของเราให้ ยั่งยืนกัน ^^ ติดตาม เนื้อหาสาระเกี่ยวกับฟาร์มได้ที่ เฟสบุ๊ค ยูทูป

วิถีเกษตรแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน Read More »

ธุรกิจอาหารสัตว์บก CPF” รวมพลังปลูกต้นไม้ ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี

ธุรกิจอาหารสัตว์บก CPF” รวมพลังปลูกต้นไม้ ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี CPF ธุรกิจอาหารสัตว์บก ทั้ง 14 โรงงานทั่วประเทศ รวมพลังปลูกต้นไม้ ในกิจกรรม “CPF FEED ปลูกปัน ป้อง ป่า” โดยมี คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก CPF เป็นประธานเปิดงาน และนำทีมผู้บริหาร ปลูกต้นไม้ ณ ป่าสวนปลา โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกราชบุรี ด้านพนักงาน ร่วมกันปลูกต้นไม้ภายในสถานประกอบการ CPF รวม 500 ต้น อาทิ ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย ต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นพรรณไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ต้นโมกมัน ไม้มงคลพระราชทานประจำ จ.ราชบุรี ต้นสะเดาเทียม ไม้มงคลพระราชทานประจำ จ.สงขลา โดยจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปีคุณเรวัติ กล่าวว่า CPF ตระหนักถึงความสำคัญของการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ มีการติดตามผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านตัวชี้วัดในระดับสากล ซึ่งกิจกรรม ‘CPF FEED ปลูก ปัน ป้องป่า’ จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก   ในปีนี้ ‘ธุรกิจอาหารสัตว์บก’ มีเป้าหมายปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการ 5,000 ต้น นอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังความตระหนักให้พนักงานเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่ดี ทั้งอากาศ น้ำ ป่าไม้ ให้กับรุ่นต่อๆ ไป อย่างยั่งยืน และสนับสนุนแนวนโยบายของบริษัทฯ ร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ./

ธุรกิจอาหารสัตว์บก CPF” รวมพลังปลูกต้นไม้ ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี Read More »

คุณ​โ​กวิน​ ฤท​ธิ​กา​นนท์ นำทีมผู้บริหารและคณะทำงาน CPF​ RUN​ FOR​ CHARITY 2024​ งานวิ่งเพื่อการกุศล มอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย

วันที่​ 3​ เมษา​ยน​ 2567คุณ​โ​กวิน​ ฤท​ธิ​กา​นนท์ นำทีมผู้บริหารและคณะทำงาน CPF​ RUN​ FOR​ CHARITY 2024​ งานวิ่งเพื่อการกุศล มอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย  จำนวน​ 405,000 บาท ให้แก่​ รพ.บ้านโป่ง เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์โดย​ พญ.รุจิรา​ เข็ม​เพ็ชร ผู้อำนวยการ​ รพ.บ้านโป่ง​ และ​ พญ.มนั​ญญา​ วรรณ​ไพสิฐ​กุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์​ เป็นผู้รับมอบ  

คุณ​โ​กวิน​ ฤท​ธิ​กา​นนท์ นำทีมผู้บริหารและคณะทำงาน CPF​ RUN​ FOR​ CHARITY 2024​ งานวิ่งเพื่อการกุศล มอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย Read More »

ซีพีเอฟ ธุรกิจอาหารัสตว์บก รับมอบฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก 523 รายการ จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก อบก.

  ซีพีเอฟ ธุรกิจอาหารัสตว์บก รับมอบฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก 523 รายการ จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก อบก. 22 มีนาคม 2567 – องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) มอบฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นการรับรองผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บกของบริษัท 522 รายการ และผลิตภัณฑ์ข้าวโพด 1 รายการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการลดผลกระทบจากดำเนินธุรกิจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นายฤทธิชัย ภูมิอมร ผู้อำนวยการอาวุโส กล่าวว่า ซีพีเอฟ ธุรกิจอาหารสัตว์ เราส่งเสริมการใช้วัตถุดิบที่มาจากแหล่งไม่ตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้พลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ มีการปรับเปลี่ยนรถยกจากน้ำมันเป็นไฟฟ้า นำดิจิตอล AI มาพัฒนากระบวนการเป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์อัจฉริยะ Smart Feedmil! ใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่การผลิต ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ใน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็นผู้นำโดยเป็นโรงงานอาหารสัตว์ได้รับรอง Carbon Neutral Organization นวัตกรรมอาหารสัตว์รักษ์โลก นอกจากนี้ทุกโรงงานเรายังเป็นโรงงาน Green Industry ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลิตอาหารปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Net-zero ในปี 2050 การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CPF Green Revenue และดำเนินกิจกรรมโครงการ Feed Sustainability in action ซึ่งตอกย้ำว่ารายได้ของบริษัทมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) เช่น ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลากสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงสนับสนุนการประเมินความยั่งยืนทางธุรกิจของดัชนีความยั่งยืนระดับโลก เช่น DJSI, MSCI และ FTSE การทำฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ช่วยให้บริษัททราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของแต่ละผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏจักร นำไปสู่การวิจัย ให้เกิดการใช้วัตถุดิบ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อร่วมรณรงค์ในการลดภาวะโลกร้อน” รับชมคลิป >> https://www.youtube.com/watch?v=Gog_l6gEcFs

ซีพีเอฟ ธุรกิจอาหารัสตว์บก รับมอบฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก 523 รายการ จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก อบก. Read More »

เปิดตัว “อาหารควาย” บุกตลาดควายไทยพัฒนาสู่สากล

“บิทคับ เวนเจอร์ส – เจ้าทุย – ซีพีเอฟ” จับมือเปิดตัวอาหารควายสูตรใหม่ พาควายไทยพัฒนาไปสู่ระดับสากล   เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด ร่วมกับบริษัท เจ้าทุย จำกัด และบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟอาหารสัตว์บก) เปิดตัว “อาหารควาย อาหารข้นคุณภาพดี” อาหารสูตรใหม่สำหรับควายไทย เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงดูควายไทยคุณภาพดีด้วยอาหารที่มีคุณภาพและสารอาหารครบครัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและยกระดับวงการควายไทยให้ทัดเทียมสากล พร้อมยังช่วยให้เกษตรกรชาวไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีสมาคมอนุรักษ์พัฒนาควายไทย เกษตรกรผู้เลี้ยงควายไทย และผู้ที่สนใจ อาทิ คุณน้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล เข้าร่วม ณ นินลนีย์ฟาร์ม เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา     นางสาวเนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “บิทคับ เวนเจอร์ส ตัดสินใจร่วมลงทุนในบริษัท เจ้าทุย จำกัด เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสในธุรกิจควายไทยที่มีความต้องการทั้งในตลาดควายสวยงามและตลาดควายพันธุ์เนื้อ รวมไปถึงความต้องการของตลาดต่างประเทศอีกด้วย เราจึงต้องการยกระดับวงการควายไทยให้มีมาตรฐานและศักยภาพสู่ระดับสากลได้ โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในการเก็บข้อมูลประวัติพันธุ์ควายในรูปแบบ NFT Pedigree เพื่อทำให้การซื้อขายในวงการควายไทยมีการรับรองข้อมูลด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้และไม่สามารถปลอมแปลงได้ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี แต่ในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ ซีพีเอฟอาหารสัตว์บก เข้ามาช่วยสนับสนุนในด้านของอาหารควายที่มีคุณภาพและเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของควายไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่วิสัยทัศน์ร่วมกันคือการยกระดับควายไทยและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย”   นายธนบัตร ใคร่นุ่นสิงห์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท เจ้าทุย จำกัด กล่าวว่า “เจ้าทุยเป็นการรวมตัวกันของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายไทย เพื่อเป็นการต่อยอดให้ควายไทยสามารถเป็นสัตว์เศรษฐกิจได้ นำไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยมากขึ้น ผ่านการเก็บพันธุ์ประวัติด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเก็บประวัติการรับวัคซีนของควาย โดยเฉพาะในกลุ่มของควายเนื้อที่จำเป็นจะต้องมีการเลี้ยงดูให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งการเข้ามาของซีพีเอฟอาหารสัตว์บก ยิ่งช่วยเติมเต็มการพัฒนาควายไทยให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาสูตรอาหารควายไทยที่เหมาะสำหรับควายพ่อพันธุ์ (สูตร CP Buff M) และควายแม่พันธุ์ (สูตร CP Buff F) โดยเฉพาะ สิ่งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะพาวงการควายไทยให้ไปสู่ระดับโลกได้จริง”  

เปิดตัว “อาหารควาย” บุกตลาดควายไทยพัฒนาสู่สากล Read More »

อบรมสัมมนา หัวข้อ Updated on swine breeds & farm management ,swine nutrition,vaccines and farm biosecurity

วันที่ 15 มีนาคม 2567 นำโดยหน่วยงานพัฒนาศักยภาพลูกค้า จัดอบรมสัมมนา หัวข้อ Updated on swine breeds & farm management ,swine nutrition,vaccines and farm biosecurity    นำโดยคุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ธุรกิจอาหารสัตว์บก กล่าวเปิดงานสัมมนา และนำทัพพนักงานขาย CPF ติดอาวุธเพิ่มความรู้การเลี้ยงสุกรเพื่อยกระดับทักษะและ การเลี้ยงสุกรให้มีประสิทธิภาพสูงและ ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกการเลี้ยงสุกรได้ทันท่วงที เพื่อส่งต่อความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงสุกรพร้อมทั้งทีเด็ดใหม่ๆ ให้กับพันธมิตรอาหารสัตว์ซีพีเอฟ      โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร มาอัพเดตเรื่องสายพันธุ์สุกร โดย คุณ ธนินทร์ ชุ่มคำ คุณ ภุชงฐ์ อัครมธุรากุล และ ดร ถิรนันท์ ศรีกัญชัย พร้อมทั้งสถานการณ์โรค โปรแกรมวัคซีน การป้องกันโรค โดย น.สพ.อภิสิทธิ์ กิจถาวรรัตน์ ร่วมถึง Feeding Program สำหรับฟาร์มสุกร โดย ดร.วันพืช ปานเสน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงสุกรมายาวนานทั้งในและต่างประเทศ     อีกทั้งระหว่างสัปดาห์มีการเข้าร่วมงาน ‘VICTAM Asia 2024’ ณ ไบเทค บางนา เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อต่อยอดให้กับลูกค้า cpf feed ต่อไป

อบรมสัมมนา หัวข้อ Updated on swine breeds & farm management ,swine nutrition,vaccines and farm biosecurity Read More »

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ. (เรียนรู้เพิ่มเติม)