Logo-CPF-small-65png

cpffeed

ค่านิยมองค์กร 6 ประการ (SIX CORE VALUES) นับเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากสังคมไทยและสังคมโลกและเครือฯ

ค่านิยมองค์กร 6 ประการ (SIX CORE VALUES)นับเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากสังคมไทยและสังคมโลกและเครือฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อนำความผาสุก คุณภาพชีวิตที่ดีสู่ประชาชน สร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต้นไม้ตั้งตระหง่านอยู่ได้ต้องมีรากแก้วที่มั่นคงเช่นเดียวกับธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ก้าวหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะตั้งมั่นอยู่บนค่านิยมองค์กรที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นพัฒนา ต่อยอดความสามารถในการบริหารธุรกิจบนฐานของคุณธรรม จริยธรรม ภายใต้ค่านิยมองค์กร 6 ประการ ประกอบด้วย 3 ประโยชน์ไม่มีองค์กรธุรกิจใดในโลกที่เติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรงได้โดยลำพัง หากแต่ต้องมีความเข็มแข็งของประชาชน สังคม และประเทศชาติเคียงข้างด้วยเสมอ เช่นเดียวกันกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่สามารถนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะดำเนินธุรกิจโดยยึดหลัก ‘3ประโยชน์’ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ได้แก่ ประโยชน์ต่อประเทศที่เข้าไปลงทุน ประโยชน์ต่อประชาชนในทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน และประโยชน์ต่อบริษัท ซึ่งเครือฯ ได้ปลูกฝังแนวคิดค่านิยมนี้มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกธุรกิจสู่การกระทำที่มุ่งหวังให้ประเทศที่ได้ลงทุนเกิดประโยชน์และธุรกิจเติบโตก้าวหน้า ทำเร็วและมีคุณภาพการดำเนินธุรกิจในยุคโลกไร้พรมแดนเช่นปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน คือ ‘ทำเร็ว’ และ ‘มีคุณภาพ’ เพื่อให้ธุรกิจก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร พฤติกรรมผู้บริโภค และกฏระเบียบการค้าต่างๆ เครือฯ จึงต้องคิดเร็ว ทำเร็ว และทำอย่างมีคุณภาพ ถือเป็นนโยบายสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ทุกคนในองค์กรได้ยึดถือและปฏิบัติ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายเครือเจริญโภคภัณฑ์มีการลงทุนใน 21 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ มีบริษัทในเครือมากกว่า 200 บริษัท และมีพนักงานทั้งหมดกว่า 300,000 คน โดยเครือฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนและกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ลดขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่จำเป็น โดยมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทำให้การทำงานง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ‘การทำเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย’ จึงเป็นข้อปฏิบัติที่สำคัญของทุกคนในองค์กรที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของเครือฯ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยอมรับการเปลี่ยนแปลงโลกเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศและภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ดังนั้น กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เครรือเจริญโภคภัณฑ์เกิดความยั่งยืนได้คือ ‘การยอมรับการเปลี่ยนแปลง’ เพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้เครือฯ เกิดการปรับตัวพยายามค้นคว้า ศึกษา วิจัยมองหาโอกาสใหม่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคและประเทศชาติ สร้างสรรค์สิ่งใหม่บนวิถีแห่งการดำเนินธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์คือพลังขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าในทุกระดับของการดำเนินธุรกิจ ทั้งแนวคิด วิธีการ กระบวนการ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เพราะโลกไม่หยุดนิ่ง ธุรกิจจึงต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมตลอดเวลา พนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์จึงทำงานด้วยความพร้อมที่จะ ‘สร้างสรรค์สิ่งใหม่’ ที่ดีกว่า ‘องค์กรแห่งนวัตกรรม’ คือเป้าหมายที่ทุกองค์กรในเครือฯ กำลังมุ่งมั่นขับเคลื่อนและแน่นอนว่า ผลสุดท้ายย่อมนำมาซึ่งการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค คุณธรรมและความซื่อสัตย์เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินกิจการมายาวนานกว่าศตวรรษด้วยยึดมั่นในหลักการของความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบันที่ธุรกิจเครือฯ แตกแขนงไปมากมาย ความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมยังคงเป็นเสาหลักขององค์กร เราคำนึงอยู่เสมอว่า ธุรกิจการค้าที่มุ่งหวังผลประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียวย่อมไม่อาจดำรงยืนนาน และไม่อาจได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งจากคู้ค้า ผู้บริโภค และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ในภาคสังคม ดังนั้น ไม่ว่าจะจำหน่ายสินค้าเพียง 1 ชิ้น หรือจำหน่ายสินค้าเป็นร้อยๆ ตัน เราก็ต้องยึดมั่นบนหลักการของ ‘คุณธรรมและความซื่อสัตย์’

ค่านิยมองค์กร 6 ประการ (SIX CORE VALUES) นับเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากสังคมไทยและสังคมโลกและเครือฯ Read More »

Farm Talk คุยเฟื่องเรื่องฟาร์ม l ep.65 อาหารรักษ์โลก นวัตกรรมอาหารสัตว์เพื่อก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของธุรกิจฟาร์ม l

Farm Talk คุยเฟื่องเรื่องฟาร์ม l ep.65 อาหารรักษ์โลก นวัตกรรมอาหารสัตว์เพื่อก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของธุรกิจฟาร์ม l Read More »

5 ทศวรรษ ซีพีเอฟนำระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้เกษตรกรไทย

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยก “โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย” ที่ดำเนินต่อเนื่องตลอด 5 ทศวรรษ ได้ร่วมสนับสนุนความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยของไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน พึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง มีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนและประเทศ ควบคู่กับการผลิตเนื้อสัตว์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงด้านอาหารให้คนไทย สมพร เจิมพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการซีพีเอฟ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 47 ปี นับตั้งแต่ ซีพีเอฟได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย  ตั้งแต่ปี 2518  นอกจากช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรทั้งสุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่ ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยประยุกต์ใช้ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง มีส่วนช่วยสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โครงการฯ ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ การขจัดความยากจน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ในการผลิตเนื้อสัตว์ที่มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สามารถส่งต่อให้ลูกหลานสืบทอดเป็นอาชีพเลี้ยงตนเองต่อได้ ตอบโจทย์เป้าหมายกลยุทธ์ความยั่งยืน CPF 2030 Sustainability in Action ภายใต้เสาหลัก อาหารมั่นคง และสังคมพึ่งตนสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ปัจจุบัน มีเกษตรกรกว่า 5,900 ครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการฯ ช่วยสนับสนุนงานที่มีคุณค่าให้กับเกษตรกรไทย โดยบริษัทเป็นผู้ถ่ายทอดให้เกษตรกรมีความรู้และเทคโนโลยีในการผลิตสินค้าได้ประสิทธิภาพ มีผลผลิตแน่นอน มีแหล่งรับซื้อผลผลิตในราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุนในการขยายกิจการ ช่วยลดความเสี่ยงให้สามารถดำเนินการผลิตเนื้อสัตว์ได้ต่อเนื่อง ร่วมสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารให้กับคนทั้งประเทศ “ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่งช่วยแก้ปัญหาความยากจนและหนี้สินครัวเรือนของเกษตรกรไทย ลูกหลานของเกษตรกรมีโอกาสทางการศึกษาในระดับสูงมากขึ้น และหลายคนกลับมาสานต่ออาชีพของพ่อแม่ ร่วมพัฒนาให้การผลิตมีความทันสมัยขึ้นโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยการผลิต ก้าวสู่การเป็นเกษตรกรยุค 4.0” สมพรกล่าว โครงการฯ ส่งเสริมให้เกษตรกรยกระดับระบบผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานฟาร์มสีเขียว (CPF Green Farm) ไม่เพียงส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยระบบก๊าซชีวภาพ (biogas system)ช่วยจัดการของเสียและนำไปใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าภายในฟาร์ม ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขณะเดียวกัน ฟาร์มเกษตรกรบางพื้นที่ยังแบ่งปันน้ำที่ผ่านการบำบัดได้มาตรฐานแล้วให้กับเพื่อนเกษตรกรที่ทำอาชีพเพาะปลูกในช่วงหน้าแล้ง รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ด้านการดำเนินงานที่รับผิดชอบเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน อาทิ การจัดการแรงงานการจัดการสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เป็นต้น ซีพีเอฟถ่ายทอดองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญต่างๆ ให้แก่เกษตรกรในโครงการฯ เป็นประจำทุกปี ช่วยสนับสนุนการทำปศุสัตว์อย่างยั่งยืน และเกษตรกรสามารถปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้  โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องโรคระบาด เกษตรกรเตรียมความพร้อมยกระดับระบบการจัดการฟาร์ม และระบบป้องกันโรคที่ดี  ช่วยให้เกษตรกรในโครงการฯ ส่วนใหญ่สามารถป้องกันโรค ASF ได้อย่างมั่นใจ จากความสำเร็จมานานถึง 5 ทศวรรษ องค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ แบ่งปันความรู้แก่เจ้าหน้าที่เกษตร FAO จากหลายประเทศทั่วโลก และนำสัญญาคอนแทรคฟาร์มมิ่งที่ปรับปรุงให้สอดคล้องกับแนวทางสากลของ UNIDROIT หน่วยงานอิสระทางกฎหมายสากลอันดับ 1 ของโลก มาเป็นต้นแบบให้หลายๆ ประเทศได้นำไปศึกษาและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศต่อไป

5 ทศวรรษ ซีพีเอฟนำระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้เกษตรกรไทย Read More »

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ. (เรียนรู้เพิ่มเติม)