Logo-CPF-small-65png

cpffeed

โปร่งใส–รักษ์โลก–ยั่งยืน ‘Bunge x BKP’ ยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับ “กากถั่วเหลือง-วัตถุดิบอาหารสัตว์ยั่งยืน” ด้วยบล็อกเชนสุดล้ำ

   โปร่งใส–รักษ์โลก–ยั่งยืน ‘Bunge x BKP’ ยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับ “กากถั่วเหลือง-วัตถุดิบอาหารสัตว์ยั่งยืน” ด้วยบล็อกเชนสุดล้ำ   กากถั่วเหลืองปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ตรวจสอบได้ตั้งแต่แหล่งที่มา → โต๊ะอาหาร  เพื่อช่วยลดคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน Bunge → ส่งออกถั่วเหลืองจากบราซิล BKP → ตรวจสอบโปร่งใสด้วย  Blockchain CPF → ผลิตอาหารคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย รักษ์โลก ผู้บริโภค → ได้ทานทุกคำอย่างมั่นใจMr. Julio Garros ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วม Bunge และ คุณฐิติ ลุจินตานนท์ CEO BKP ลงนามความร่วมมือระดับโลกโดยมี ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ พร้อมผู้บริหาร CPF | คุณอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ CEO CPF และผู้บริหารเครือฯ ร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือครั้งนี้…ไม่ใช่แค่ “ดีลธุรกิจ” แต่คือ “ดีลเพื่อโลก”  ห่วงโซ่อาหารโปร่งใส เชื่อมด้วยเทคโนโลยี + นวัตกรรม + ความยั่งยืน → สู่ Net Zero 2050  

โปร่งใส–รักษ์โลก–ยั่งยืน ‘Bunge x BKP’ ยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับ “กากถั่วเหลือง-วัตถุดิบอาหารสัตว์ยั่งยืน” ด้วยบล็อกเชนสุดล้ำ Read More »

CPF FFED ร่วมกับ SD CPF จับมือกันเดินหน้าเพื่อหัวใจแห่งความยั่งยืนของอาหาร จากต้นน้ำอาหารสัตว์สู่มือผู้บริโภค

CPF FFED ร่วมกับ SD CPF จับมือกันเดินหน้าเพื่อหัวใจแห่งความยั่งยืนของอาหาร จากต้นน้ำอาหารสัตว์สู่มือผู้บริโภค โดยผู้บริหารและทีมงานประชุมเชิงปฏิบัติการในการสร้างกลยุทธ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของซีพีเอฟ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรม Biodiversity Strategy Workshop จากงานครั้งนี้ขอสรุปให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้   SETTING THE STAGE – ชี้แจงเป้าหมายเวิร์กช็อป เริ่มต้นด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์หลัก คือ การสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และกำหนดกรอบเป้าหมายการทำงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร CPF     มากกว่า CSR – เมื่อธรรมชาติคือความมั่นคงของ CPF ย้ำให้เห็นว่าความหลากหลายทางชีวภาพไม่ใช่เพียงกิจกรรม CSR แต่คือ “ความมั่นคง” ของธุรกิจอาหารในระยะยาว เพราะหากทรัพยากรถูกทำลาย ห่วงโซ่อาหารและธุรกิจจะเผชิญความเสี่ยงโดยตรง    สำรวจผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่า วิเคราะห์การพึ่งพาและผลกระทบต่อธรรมชาติในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่วัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและระบบนิเวศ    แผนที่ความเสี่ยงทางธุรกิจ (Business Risk Mapping) ระบุและจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนวัตถุดิบ การสูญเสียถิ่นอาศัยของสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจกระทบต่อความต่อเนื่องของธุรกิจ      จากความเสี่ยงสู่แผนรับมือ พัฒนาแนวทางจัดการความเสี่ยง โดยกำหนด แผนงาน เป้าหมาย ตัวชี้วัด และผู้รับผิดชอบ เพื่อให้การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบ    สรุปรวบยอดสู่กลยุทธ์องค์กร นำข้อมูลจากทุกช่วงมาร้อยเรียงเป็น โครงสร้างกลยุทธ์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพของ CPF Feed เพื่อให้เป็นทิศทางการทำงานระดับองค์กร เชื่อมโยงกับความยั่งยืนและเป้าหมายทางธุรกิจในอนาคต      

CPF FFED ร่วมกับ SD CPF จับมือกันเดินหน้าเพื่อหัวใจแห่งความยั่งยืนของอาหาร จากต้นน้ำอาหารสัตว์สู่มือผู้บริโภค Read More »

ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ รับ 4 รางวัลใหญ่ ในงานมอบรางวัล CP Excellence Day 2025: Sharing, Learning and Honoring

   ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ รับ 4 รางวัลใหญ่ ในงานมอบรางวัล CP Excellence Day 2025: Sharing, Learning and Honoring    ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ นำโดยคุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก รวมทั้งผู้บริหารและตัวแทนคณะทำงาน ซีพีสู่ความเป็นเลิศ (CP Excellence) รับมอบรางวัลใหญ่ ดังนี้1. Holistic Excellence รางวัลความเป็นเลิศองค์รวม: Platinum Level (2025)2. Holistic Excellence รางวัลความเป็นเลิศองค์รวม: Gold Level (2022)3. Outstanding Achievement – Operation: รางวัลโดดเด่น ด้านปฏิบัติการ: Platinum Level4. Outstanding Achievement – Customer: รางวัลโดดเด่น ด้านลูกค้า: Platinum Level    การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีและมอบรางวัลเกียรติยศ CP Excellence Award แก่องค์กรที่นำระบบบริหาร CP Excellence ไปใช้จนเกิดผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง โดยมี ดร.อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นประธานในงาน    ภายในงานยังมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากองค์กรต้นแบบ นำโดย Mr. Bai Shan Lin รองประธานอาวุโส ธุรกิจสุกร ประเทศจีน และคุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ในการขับเคลื่อนองค์กรด้วย CP Excellence เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน   ดำเนินการและจัดงาน โดย สำนักระบบบริหารซีพีสู่ความเป็นเลิศ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 21 อาคารทรู ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร        

ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ รับ 4 รางวัลใหญ่ ในงานมอบรางวัล CP Excellence Day 2025: Sharing, Learning and Honoring Read More »

โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “CPF อิ่ม สุข ปลูกอนาคต”

  โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “CPF อิ่ม สุข ปลูกอนาคต” ณ โรงเรียนประร่วมใจประสิทธิ์ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการตามแนวพระราชดำริ “ด้วยรักและห่วงใย” มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตนักเรียนด้านโภชนาการ ควบคู่กับการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง  กิจกรรมสำคัญ คือ การสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โดยโรงเรียนได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยภาวะโภชนาการเด็กและเยาวชน ผลผลิตไข่ไก่จากโครงการถูกนำไปใช้ประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียน อีกทั้งยังจำหน่ายในชุมชน เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนและความยั่งยืนให้แก่โรงเรียน  โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกท่าเรือยังคงจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม ส่งเสริมสุขภาวะทางโภชนาการ และปลูกฝังแนวคิดการพึ่งพาตนเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง  กิจกรรมครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในการดำเนินโครงการ CSR ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่ออนาคตที่ดีของเด็กไทยและชุมชนโดยรอบ   

โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “CPF อิ่ม สุข ปลูกอนาคต” Read More »

CPF FEED ธุรกิจอาหารสัตว์บก + SHE&En CPF จัดหลักสูตรถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการบริหารความเสี่ยงและโอกาส SHE&En ครั้งใหญ่ 2025

CPF FEED บก + SHE&En CPF จัดหลักสูตรถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการบริหารความเสี่ยงและโอกาส SHE&En ครั้งใหญ่ 2025โดยมีผู้บริหารและหัวหน้างานพร้อมตัวแทนผู้ปฏิบัติงาน ทั้ง 14 โรงงานอาหารสัตว์บก เข้าร่วมเรียนรู้การทบทวนประเมินความเสี่ยง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การประเมินความเสี่ยง สอนรวมถึงสื่อสาร อธิบายหลักเกณฑ์ตามมาตรฐาน MS2ได้รับเกียรติจาก คุณวีรวัตร ทารการ สำนัก SHE&En CPF และทีมที่ปรึกษาเป็นวิทยากร และคุณกอบกาญจน์ ประสมศักดิ์ ผู้บริหารด้านระบบมาตรฐานและความยั่งยืนองค์กรธุรกิจอาหารสัตว์บกและทีมงาน ร่วมอบรมและสังเกตการณ์ตลอดระยะการเรียนรู้ 

CPF FEED ธุรกิจอาหารสัตว์บก + SHE&En CPF จัดหลักสูตรถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการบริหารความเสี่ยงและโอกาส SHE&En ครั้งใหญ่ 2025 Read More »

เคล็ดไม่ลับ! ทำไมฟาร์มรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคน

ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีกลายเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรม — รวมถึง “ฟาร์มปศุสัตว์” ด้วยเช่นกัน จากเดิมที่ฟาร์มต้องพึ่งพาแรงงานคนจำนวนมาก ปัจจุบันแนวโน้มของ “ฟาร์มรุ่นใหม่” ได้ปรับตัวสู่ระบบที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจหลัก ช่วยให้การจัดการฟาร์มมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง และที่สำคัญคือ “มีกำไรมากขึ้น” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเหตุผลสำคัญที่ฟาร์มยุคใหม่หันมาใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคน พร้อมเผยเคล็ดลับเบื้องหลังความสำเร็จที่คุณเองก็เริ่มต้นได้ไม่ยาก ปัญหาที่ฟาร์มยุคเก่ากำลังเผชิญ ก่อนจะพูดถึงเทคโนโลยี เราต้องเข้าใจก่อนว่า “ทำไมต้องเปลี่ยน” ขาดแคลนแรงงาน: แรงงานภาคเกษตรลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะ ต้นทุนสูง: ค่าจ้างพนักงาน ค่าอาหารสัตว์ และค่าดูแลสุขภาพสัตว์สูงขึ้นทุกปี ประสิทธิภาพต่ำ: การทำงานแบบใช้แรงงานคนมักมีข้อผิดพลาดสูง ควบคุมคุณภาพได้ยาก เทคโนโลยีช่วยอะไรได้บ้าง? การนำเทคโนโลยีเข้ามาในฟาร์ม ไม่ได้แปลว่า “คนจะตกงาน” แต่เป็นการช่วยให้ “คนทำงานได้ฉลาดขึ้น” และ “มีเวลาบริหารฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ” ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในฟาร์มยุคใหม่: ระบบให้อาหารอัตโนมัติ: ควบคุมปริมาณและเวลาการให้อาหารด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ลดการใช้แรงงาน และเพิ่มความแม่นยำ กล้อง CCTV + AI: เฝ้าระวังสุขภาพสัตว์ ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้แบบเรียลไทม์ IoT Sensor: ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น แอมโมเนียในโรงเรือน แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความผิดปกติ โปรแกรมจัดการข้อมูล: รวบรวมข้อมูลการเจริญเติบโต การใช้วัคซีน การให้อาหาร เพื่อใช้วิเคราะห์และวางแผน ประโยชน์ที่ฟาร์มได้รับ ลดแรงงานได้ถึง 50–70%: จากเดิมที่ต้องมีพนักงาน 5 คน อาจเหลือเพียง 2 คน เพิ่มผลผลิต: ควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น ทำให้สัตว์โตเร็ว สุขภาพแข็งแรง วางแผนได้แม่นยำ: ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ ฟาร์มสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตลอดเวลา ต้นทุนลดลง-กำไรเพิ่มขึ้น: การลดความสูญเสียในระบบและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ช่วยเพิ่มกำไรสุทธิได้ถึง 2 เท่า เคล็ดลับในการเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีในฟาร์ม เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพมาก เช่น ระบบให้อาหาร, การตรวจอุณหภูมิ เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับขนาดฟาร์ม ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง หาคู่ค้าหรือผู้ให้บริการที่มีความรู้และให้การสนับสนุนหลังการขาย ฝึกอบรมทีมงานให้เข้าใจระบบ เพราะคนยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี ฟาร์มตัวอย่างที่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีแล้วสำเร็จ   จากเดิมมีปัญหาเรื่องแรงงานขาด ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบ Smart Farm ควบคุมโรงเรือนผ่านมือถือ ลดคนงานจาก 6 คน เหลือ 2 คน แต่กำไรต่อรอบเพิ่มขึ้นกว่า 80% พร้อมคุณภาพสุกรที่ได้มาตรฐานกว่าเดิม

เคล็ดไม่ลับ! ทำไมฟาร์มรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคน Read More »

“ฟาร์มหมอต้น” ตัวอย่าง เกษตรกรแนวหน้า คว้ารางวัล SME ระดับชาติ ซีพีเอฟ ผสานองค์ความรู้-เทคโนโลยี ยกระดับฟาร์มคู่ค้า สู่มาตรฐานสากล

“ฟาร์มหมอต้น” ผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสุกร ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและปราจีนบุรี ที่วันนี้ดำเนินงานมาแล้ว 11 ปี และสามารถพาธุรกิจขึ้นแท่นผู้ประกอบการยอดเยี่ยมระดับชาติ คว้า 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 SME National Awards 2025 และอีก 2 รางวัลพิเศษ คือ รางวัล SME แห่งชาติยอดเยี่ยม และรางวัล SME Sustainability & ESG Excellence ภายใต้โครงการ MSME National Awards 2025 ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17 สะท้อนความสำเร็จในการบริหารจัดการ ที่ปฏิบัติตามแนวทาง TQA และได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผ่านกระบวนการ “คิดและเติบโตไปด้วยกัน” ส่งต่อองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบการบริหารจัดการแบบมืออาชีพอย่างเป็นระบบ น.สพ.วรวุฒิ ศิริปุณย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟาร์มหมอต้น จำกัด กล่าวว่า “ฟาร์มหมอต้น” มุ่งมั่นผลิตสุกรครบวงจรที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล ใส่ใจความยั่งยืนระดับโลก การผลิตอยู่ภายใต้มาตรฐานทั้งด้านสุขอนามัย สวัสดิภาพสัตว์ และกระบวนการผลิต โดยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในทุกมิติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความยั่งยืนระยะยาว ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกับชุมชน สังคมได้ จากจุดเด่นในการนำหลักการจัดการฟาร์มแบบบูรณาการมาประยุกต์ใช้จริง ทำให้ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลนี้ “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นยังได้แรงผลักดันจากซีพีเอฟ พันธมิตรที่ช่วยคิด พัฒนา และเติบโตไปด้วยกัน ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบต่างๆ จากการที่ซีพีเอฟมีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรอุตสาหกรรมอยู่แล้ว เช่น ไบโอแก๊ส โซลาร์ รูฟท็อป รวมทั้งการสนับสนุนจากหน่วยงานพัฒนาศักยภาพลูกค้าและทีมขายอาหารสัตว์ภาคตะวันออก ทีมผู้เชี่ยวชาญบริการวิชาการ ทีมการตลาด ทีมสนับสนุน ที่สำคัญ คือ การถ่ายทอดแนวทางการบริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศ (CP Excellence) จนฟาร์มสามารถยกระดับการจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้ง Supply Chain สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตามหลัก ESG” น.สพ.วรวุฒิ กล่าว บจ.ฟาร์มหมอต้น ผ่านการประเมินจากผู้สมัครกว่า 200 รายทั่วประเทศ สะท้อนศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ไทย ที่สามารถยกระดับธุรกิจเทียบเท่ามาตรฐานสากลได้ด้วยตนเอง โดยมีซีพีเอฟเป็นพันธมิตรร่วมทางสู่เป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน แบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางการบริหารจัดการที่ทันสมัย สำหรับรางวัล SME National Awards มีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจ MSME ให้ก้าวสู่ระดับสากล โดยการปรับใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) เป็นฐานการพิจารณาให้เข้ากับบริบทของ MSME ครอบคลุมการบริหารจัดการ 7 ด้านสำคัญ ได้แก่ บทบาทของผู้บริหารในการนำองค์กร การวางแผนการดำเนินธุรกิจ การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด การวัด วิเคราะห์และจัดการความรู้ การบริหารทรัพยากรบุคคล การจัดการกระบวนการ และผลลัพธ์ทางธุรกิจ ปีนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ ร่วมกับ นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สสว. โดยมี นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ และทีมงานฯ ร่วมแสดงความยินดี  

“ฟาร์มหมอต้น” ตัวอย่าง เกษตรกรแนวหน้า คว้ารางวัล SME ระดับชาติ ซีพีเอฟ ผสานองค์ความรู้-เทคโนโลยี ยกระดับฟาร์มคู่ค้า สู่มาตรฐานสากล Read More »

จากขี้เถ้า… สู่วัสดุรักษ์โลก! “CPF จับมือ มทส.” ปั้นนวัตกรรม Zero Waste ด้วย “ขี้เถ้าชีวมวล”

วันที่ 6 สิงหาคม 2568มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ด้านการวิจัยและพัฒนาการสร้างมูลค่าของเสีย Zero Wase โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และอาจารย์ ดร.ภัทรกร สฤษชสมบัติ ผู้รักษาการแทนรองผู้อำนวยการเทคโนธานีฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร เป็นผู้แทนจาก มทส. พร้อมด้วย บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก และคุณบุญเสริม เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ด้านบริหารกระบวนการธุรกิจอาหารสัตว์บก ณ ห้องประชุมสารนิเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี   พิธีลงนามครั้งนี้ประกอบด้วย การกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน โดย อาจารย์ ดร.ภัทรกร สฤษชสมบัติ ผู้รักษาการแทนรองผู้อำนวยการเทคโนธานีฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร การกล่าวแถลงการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย โดย รองศาตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี การกล่าวความเป็นมาของเทคโนโลยี โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริวรรณ โชคค้า อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเซรามิก ในฐานะนักวิจัยประจำโครงการ การกล่าวเจตนารมณ์เป้าหมาย CPF Zero waste to landfill 2030 โดย คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้บริหารบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) การแนะนำบริษัทและความเป็นมาของโครงการด้านการวิจัยและพัฒนาการสร้างมูลค่าจากของเสีย Zero Waste โดย คุณสิทธิ์ระพี ช้างหมื่นไวย ผู้ชำนาญระบบมาตรฐานและระบบการจัดการข้อมูล จากนั้นได้นำเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานวิจัยและให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสื่อมวลชน การลงนามในครั้งนี้ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ.บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในการเป็นพันธมิตรร่วมมือกันวางแผน พัฒนา และดำเนินงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในระดับชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และระดับประเทศ ความร่วมมือในลักษณะนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ แต่จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศในอนาคต.

จากขี้เถ้า… สู่วัสดุรักษ์โลก! “CPF จับมือ มทส.” ปั้นนวัตกรรม Zero Waste ด้วย “ขี้เถ้าชีวมวล” Read More »

จากฟาร์มขาดทุน…สู่กำไรหลักแสน ด้วย Smart Farm ที่เริ่มต้นแค่หมื่นเดียว!

“เคยเลี้ยงหมูแล้วไม่เห็นกำไรเลย” “เลี้ยงไปเหนื่อยไป แต่เงินไม่เหลือ” “แรงงานก็หายาก ค่าน้ำค่าไฟก็ขึ้น” คำพูดเหล่านี้คงเป็นเรื่องที่ฟังดูคุ้นหูสำหรับเจ้าของฟาร์มสัตว์เศรษฐกิจหลายคน โดยเฉพาะในยุคที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่ราคาขายไม่แน่นอน แต่รู้ไหมว่า วันนี้มีฟาร์มไทยหลายแห่งสามารถพลิกจากสถานะ “ขาดทุน” กลับมา “กำไรหลักแสน” ได้ภายในไม่กี่รอบการเลี้ยง และสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนเกมก็คือ “Smart Farm” ระบบฟาร์มอัจฉริยะที่เริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณเพียงหลักหมื่นบาท! จากปัญหาสู่จุดเปลี่ยน: แค่เปลี่ยนแนวคิด เกษตรกรเจ้าของฟาร์มสุกรขนาดกลางในภาคตะวันตก เคยเจอกับปัญหาคลาสสิกของฟาร์มทั่วไป คือ ต้นทุนสูง กำไรต่ำ หมูตายจากโรค ไม่รู้ว่าขาดทุนเพราะอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเริ่มต้นเปลี่ยนแนวคิดจากการเลี้ยงแบบดั้งเดิม มาเป็นการเลี้ยงแบบใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เขาเริ่มต้นเพียงแค่ 15,000 บาท ในการติดตั้งระบบให้อาหารอัตโนมัติและเซนเซอร์วัดอุณหภูมิภายในโรงเรือน พร้อมใช้แอปพลิเคชันเก็บข้อมูลการกินอาหารของหมูแต่ละคอก ผลที่ได้คือ ภายใน 3 เดือน หมูโตเร็วขึ้น ใช้อาหารน้อยลง โรงเรือนสะอาดขึ้น และที่สำคัญที่สุด – กำไรสุทธิเพิ่มจากหลักพันเป็นหลักแสน! แล้ว Smart Farm ช่วยเพิ่มกำไรได้อย่างไร? รู้ต้นทุนแบบเรียลไทม์ = ควบคุมงบแม่นยำ ระบบบันทึกข้อมูลแบบอัตโนมัติ เช่น การใช้ไฟฟ้า อาหาร น้ำ ยา ช่วยให้เจ้าของฟาร์มสามารถคำนวณต้นทุนต่อรอบการเลี้ยงได้อย่างแม่นยำ รู้ว่าควรลด-เพิ่มอะไร ไม่ต้องรอปิดงบถึงรู้ว่าขาดทุน ลดการสูญเสีย = เพิ่มอัตรารอดชีวิต ระบบเซนเซอร์ช่วยแจ้งเตือนทันทีเมื่ออุณหภูมิในโรงเรือนสูงเกินหรือมีความผิดปกติ เช่น หมูไม่กินอาหาร ลดการสูญเสียจากโรคหรือความเครียดของสัตว์ได้มากกว่า 30–50% ระบบอัตโนมัติ = ลดแรงงาน + เพิ่มประสิทธิภาพ การติดตั้งเครื่องให้อาหารและน้ำแบบอัตโนมัติ ลดการพึ่งพาแรงงานรายวันได้อย่างมาก เหลือแรงงานแค่ 1–2 คนก็ดูแลฟาร์มได้ทั้งระบบ นอกจากนี้ยังให้อาหารได้ตรงเวลาและปริมาณ ทำให้หมูโตเร็วและสุขภาพดี AI วิเคราะห์น้ำหนักหมู = ขายจังหวะที่ได้ราคาดี ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมและน้ำหนักสัตว์ สามารถคำนวณช่วงเวลาที่ควรขายเพื่อให้ได้ราคาสูงสุด พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าให้เกษตรกรไม่พลาดโอกาส คืนทุนไว = เริ่มได้ด้วยงบไม่สูง แม้จะลงทุนในระบบอัจฉริยะ แต่ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 10,000–30,000 บาท และสามารถคืนทุนได้ในรอบการเลี้ยงเพียง 2–3 ครั้ง เทียบกับผลตอบแทนแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก ฟาร์มเล็กก็ทำได้ ฟาร์มใหญ่ก็ขยายได้ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ Smart Farm เหมาะกับฟาร์มใหญ่เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ฟาร์มขนาดเล็ก–กลางสามารถเริ่มต้นจากระบบใดระบบหนึ่งก่อน เช่น ระบบให้อาหารอัตโนมัติ หรือระบบบันทึกข้อมูล แล้วค่อย ๆ ขยับขยาย สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ Smart Farm ยังช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย เพิ่มความแม่นยำในการจัดการหลายโรงเรือนได้พร้อมกัน ลดโอกาสผิดพลาดจากมนุษย์ และวางแผนธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ : อย่ารอให้ขาดทุนจนสาย – เปลี่ยนวันนี้ กำไรพุ่งทันที การเปลี่ยนผ่านไปสู่ Smart Farm ไม่ใช่เรื่องใหญ่เสมอไป บางครั้งการเริ่มต้นเล็ก ๆ อย่างการรู้ต้นทุนที่แท้จริงหรือการให้อาหารตรงเวลา ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในผลกำไรได้ หากคุณกำลังเลี้ยงสัตว์แล้วรู้สึกว่าเหนื่อยแต่ไม่คุ้ม Smart Farm อาจคือทางรอดและโอกาสใหม่ที่คุณกำลังมองหา  

จากฟาร์มขาดทุน…สู่กำไรหลักแสน ด้วย Smart Farm ที่เริ่มต้นแค่หมื่นเดียว! Read More »

มื้อนี้ที่ห่วงใย … ซีพีเอฟ ส่งต่อกำลังใจสู่ศูนย์อพยพชายแดน

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ซีพีเอฟเดินหน้าเคียงข้างประชาชน ส่งมอบวัตถุดิบปรุงอาหารให้ศูนย์อพยพใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ซีพีเอฟ ห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมอยู่เคียงข้างทุกวิกฤต โดย ธุรกิจสุกร ภาคอีสาน เร่งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์น้ำยืน ศูนย์ศรีสะเกษ ศูนย์สุรินทร์ เพื่อประสานการช่วยเหลือแก่ศูนย์อพยพของหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อส่งความห่วงใยผ่านมื้ออาหารของทุกคน โดยจับมือร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ โดยได้มอบเนื้อหมูและเนื้อไก่ แก่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เพื่อส่งต่อเป็นวัตถุดิบแก่ โรงครัวพระราชทาน โดยกองอำนวนการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุบลราชธานี  ส่วนในจังหวัดศรีสะเกษ ธุรกิจสุกร สนับสนุนเนื้อหมู เนื้อไก่ และน้ำดื่ม แก่ศูนย์รับอพยพประชาชน ที่ว่าการ อ.เบญจลักษ์,  ที่ทำการ ต.หนองหว้า, ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองหว้า, รพ.สต.หนองหว้า, อบต.ท่าคล้อ จำนวน 4 ศูนย์, ที่ว่าการ อ.โนนคูณ, อบต. โนนค้อ จำนวน 2 ศูนย์ และ อบต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์  โดยส่งมอบวัตถุดิบทั้งหมดแก่หน่วยงานต่างๆ ใช้ประกอบอาหาร แจกจ่ายให้กับประชาชนและอาสาสมัครต่อไป ทางด้าน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ศรีสะเกษ ธุรกิจสุกร ร่วมสนับสนุนน้ำดื่ม CP ให้กับศูนย์พักพิง 2 ศูนย์ ในจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ 1.ศูนย์พักพิง หอประชุม อ.โนนคูณ และ ศูนย์พักพิง ศาลาวัดทักษิณธรรมนิเวศน์ อ.โนนคูณ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขณะที่ ธุรกิจไก่เนื้อ ภาคอีสาน โดย โรงงานชำแหละไก่ศรีสะเกษ เร่งสนับสนุนผลิตภัณฑ์ไก่ ในภารกิจการช่วยเหลือประชาชน ในจุดอพยพ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 4 จุด จำนวนผู้อพยพรวมกว่า 2,550 ราย ได้แก่ จุดอพยพ อ.เบญจลักษ์, จุดอพยพวัดคำสะอาด ต.ท่าคล้อ, จุดอพยพวัดโนนสำโรง ต.ท่าคล้อ และจุดอพยพวัดหนองบักโทน ต.ท่าคล้อ ล่าสุดสนับสนุนแก่จุดอพยพ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ ธุรกิจไก่ไข่ ภาคอีสาน ส่งมอบไข่ไก่ CP จำนวน 3,000 ฟอง ถึงศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ และเตรียมส่งมอบแก่ อ.ไพรบึง อ.ภูสิงห์ ด้วย ซีพีเอฟ ขอส่งกำลังใจและความห่วงใย ไปพร้อมกับมื้ออาหาร ที่หน่วยงานภาคีเครือข่าย ตั้งใจปรุงเพื่อนำไปส่งมอบถึงมือพี่น้องประชาชน ให้ก้าวผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยความปลอดภัย./  

มื้อนี้ที่ห่วงใย … ซีพีเอฟ ส่งต่อกำลังใจสู่ศูนย์อพยพชายแดน Read More »

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ. (เรียนรู้เพิ่มเติม)