การจัดการฟาร์ม โรงเรือนอีแวป มาต่อกันเลยครับ
นอกจากอุณหภูมิแล้วยังมีอีก 3 ปัจจัยที่มีผลต่อความสบายของสุกร (pig Comfort) นั่นคือ ความชื้น ความเร็วลมและความต้องการอากาศ
ในช่วงความชื้นต่ำเกินไปผลที่เกิดขึ้นกับสุกรคือ
- เยื่อบุโพรงจมูกแห้ง ลอกหลุด
- สุกรจะจามมากขึ้น
- โอกาสติดเชื้อมากขึ้น จากฝุ่น (endotoxin)
- กดภูมิคุ้มกัน
สำหรับประเทศไทยช่วงความชื้นต่ำมีโอกาสเกิดน้อยมากส่วนใหญ่เกิดในฤดูหนาวช่วงสั้นๆสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายโดยการเปิดน้ำแพดให้ชุ่มด้านบนของแพดช่วงสั้นๆประมาณ 1 ฟุตเพื่อเพิ่มความชื้นในโรงเรือน
ในช่วงความชื้นสูงเกินไปผลที่เกิดขึ้นกับสุกรคือ
- การระเหยที่ผิวหนังเกิดได้น้อย ทำให้ไม่สามารถทำให้ร่างกายเย็นลงได้ (สุกรไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนมนุษย์การทำให้ร่างกายเย็นลงต้องอาศัยการระเหยน้ำจากผิวหนัง) จึงมีปัญหามากถ้าเกิดร่วมกับอุณหภูมิที่สูง
- โอกาสติดเชื้อมากขึ้นถ้าอุณหภูมิสูง
- กดภูมิคุ้มกันเนื่องจากสุกรมีความเครียดสูง
ถ้าจะทำความเข้าใจถึงความเครียดของสุกรในขณะที่ความชื้นสูงและอุณหภูมิสูงให้เราลองอาบน้ำในห้องน้ำที่มีแค่ช่องระบายลมเล็กๆ ในวันที่มีฝนตกและอากาศร้อน เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วให้ยืนนิ่งๆ อยู่ในห้องน้ำซักครึ่งชั่วโมง ความรู้สึกอึดอัดนั้นคือความรู้สึกของสุกร ที่สำคัญสุกรไม่สามารถเดินหนีออกมาจากห้องน้ำได้ ต้องทนอยู่กับความรู้สึกแบบนั้นไปตลอดจนกว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในโรงเรือน
เราสามารถดูว่าความชื้นและอุณหภูมิร่วมกัน จะสร้างความเครียดให้สุกรหรือไม่ โดยนำค่าอุณหภูมิเป็นองศาฟาเรนไฮต์รวมกับค่าความชื้นสัมพัทธ์ ถ้าเกิน 170 ถือว่าสุกรอยู่ไม่สบาย ดังนั้นเราต้องบริหารค่าความสบายของสุกรให้ไม่เกิน 170 นั่นเอง
การตอบสนองของสุกรต่อความเร็วลม
ในช่วงความเร็วลมต่ำกว่าความต้องการของสุกร ผลที่เกิดขึ้นกับสุกรคือ
- ถ้าอุณหภูมิสูงสุกรจะนอนหอบ กินอาหารน้อย ลดกิจกรรม แช่น้ำ ตัวสกปรก
- ไอหรือจามถ้าโรงเรือนมีแก๊สมาก
- ลดภูมิคุ้มกัน
ในบ้านเรามีอุณหภูมิที่สูงกว่าความต้องการของสุกรเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ลูกสุกรอายุ 3-4 สัปดาห์ยังต้องการอุณหภูมิที่ 32-34 องศาเซลเซียส นั่นแปลว่าถ้าอุณหภูมิทั่วๆ ไปสูงกว่า 34 องศาเซลเซียส สุกรก็จะรู้สึกร้อน ความเร็วลมจึงเป็นปัจจัยหลักที่สามารถนำมาช่วยให้สุกรรู้สึกสบายได้
ที่อายุสุกร 19 สัปดาห์ขึ้นไป อุณหภูมิที่สุกรต้องการไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส ถ้าโรงเรือนอีแวปของเรามีคุณภาพสูงสามารถกดอุณหภูมิลงได้ 10 องศา แปลว่าอุณหภูมิภายนอกโรงเรือนสูงได้ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส ซึ่งทุกวันนี้อุณหภูมิภายนอกอาจสูงกว่า 40 องศาด้วยซ้ำ นอกจากนั้นท่านแน่ใจหรือไม่ว่าคุณภาพโรงเรือนสามารถกดได้ถึง 10 องศาจริง จากประสบการณ์พบว่าฟาร์มที่ไม่มีการติดตามเรื่องสภาพแวดล้อมอย่างจริงจังมีโอกาสสูงมากที่โรงเรือนอยู่ในสภาพที่กดอุณภูมิได้แค่ 4-7 องศาเท่านั้น และหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้โรงเรือนไม่สามารถกดอุณหภูมิได้ถึง 10 องศาเซลเซียสก็คือความเร็วลมไม่พอนั่นเอง
อีกปัจจัยที่ต้องระวังถ้าความเร็วลมต่ำ คือเรื่องแก๊สที่เป็นอันตรายต่อคนและสุกร เราต้องรู้ว่าโรงเรือนของเรามีค่า Air Exchange ไม่เกิน 1 นาทีที่ความเร็วลมเท่าไหร่ เราจะได้วางแผนเรื่องการโช้คแก๊สออกจากโรงเรือนได้
ในช่วงความเร็วลมสูงกว่าความต้องการของสุกร ผลที่เกิดขึ้นกับสุกรคือ
- ถ้าอุณหภูมิสูงสุกรจะนอนหอบ กินอาหารน้อย ลดกิจกรรม แช่น้ำ ตัวสกปรก
- ถ้าอุณหภูมิต่ำ สุกรจะนอนสุม
- ลดภูมิคุ้มกัน
ถ้าอุณหภูมิที่หมูรู้สึก (EET-Effective Environment Temperature) ต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียสผู้เลี้ยงต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับสุกรที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ เนื่องจากมีโอกาสที่สุกรจะเกิดความเครียดเนื่องจากโดนลมโกรก (Wind Chill)
ความหมายคือแม้อุณหภูมิห้องจะสูงกว่า
ความต้องการของสุกรแต่ความเร็วลมที่สูงเกินไปจะทำให้สุกรรู้สึกหนาวนั่นเอง
จึงเป็นเหตุผลหลักที่การเลี้ยงสุกรช่วงอนุบาลต้องมีความพร้อมด้านพื้นรองนอน ไฟกกและพื้นที่นอนที่สามารถป้องกันลมโกรกได้
อีกปัจจัยที่มีผลต่อความสบายของสุกรคือ ความต้องการอากาศ ซึ่งเราจะมาทำความเข้าใจกันการจัดการฟาร์มในตอนต่อไปครับ
CR: โค้ช วิทธ์