โรงเรือนอีแวป ระบบอินเวอร์เตอร์ มีแล้วใช้ประโยชน์จัดการฟาร์มให้เต็มประสิทธิภาพ ได้อย่างไร?
ปัจจุบันเทคโนโลยีการประหยัดไฟฟ้าด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) กำลังได้รับความนิยมเพราะช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ทั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ฯลฯ กินไฟน้อยลงกว่าปกติถึง 35-55% เพราะระบบอินเวอร์เตอร์นี้เป็นอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่ใช้ในการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเปลี่ยนความเร็วรอบของมอเตอร์ให้เหมาะสมกับการทำงาน ทำให้กินไฟน้อยลง จึงช่วยประหยัดไฟฟ้าได้นั่นเอง
วันนี้ไม่เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นที่ใช้อินเวอร์เตอร์ เพื่อการประหยัดค่าไฟ แต่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ก็ติดตั้งระบบนี้เพื่อให้รถยนต์สองระบบที่ใช้ไฟฟ้าร่วมด้วยประหยัดไฟมากขึ้น และในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรเองก็ได้นำเอาเทคโนโลยีนี้ไปช่วยลดการใช้ไฟฟ้าภายในฟาร์มกันอย่างแพร่หลาย
เชื่อว่าพี่น้องผู้เลี้ยงสุกรที่มีโรงเรือนระบบอีแวป มีการควบคุมความเร็วพัดลมด้วยระบบอินเวอร์เตอร์กันเป็นส่วนใหญ่
แต่จะดีกว่ามั้ย? หากสามารถใช้งานอย่างจริงจังและเต็มประสิทธิภาพ
- ถ้าเราเป็นเจ้าของฟาร์มและเป็นผู้ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ด้วยตัวเอง แต่ยังใช้ได้ไม่ถูกต้องตามศักยภาพของระบบ ใช้บทความนี้เป็นแนวทางได้เลยครับ
- ถ้าเป็นนักลงทุนมีการจ้างสัตวบาลมาควบคุมก็สามารถใช้บทความนี้ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของน้องๆสัตบาลว่าอยู่ในระดับไหนและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพตามที่ผู้ลงทุนได้ลงทุนอุปกรณ์ไว้แล้ว
ทำไมต้องสนใจ จัดการฟาร์ม โรงเรือนอีแวป ระบบอินเวอร์เตอร์ ให้ถูกต้อง
1. ประหยัดเงินค่าไฟฟ้าแต่ต้องให้มีจำนวนพัดลมมากกว่าค่ามาตรฐาน
จำนวนกี่ตัวขึ้นกับขนาดโรงเรือนเนื่องจากการทำงานของระบบไม่มีการกระชากของไฟฟ้าจากการปิดเปิดพัดลมและปรับความเร็วลมโดยอาศัยการปรับความเร็วในการหมุนพัดลมแทน(เหมือนแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ที่ประหยัดค่าไฟฟ้ามากกว่าระบบมาตรฐานทั่วๆไป)
2. ความเร็วของพัดลมมีการปรับตามความต้องการของสุกรในแต่ละอายุตามค่ามาตรฐานด้านล่าง
3. ความชื้นรวมกับอุณหภูมิเป็นองศาฟาเรนไฮต์ต้องไม่เกิน 170 ดังตารางด้านล่าง
4. ความสามารถในการทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับสุกรในแต่ละระยะการเลี้ยงเป็นการผสมผสานระหว่างระบบอินเวอร์เตอร์และการติดตามงานด้านสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ระบบ แค่ระบบอย่างเดียวไม่สามารถทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อสุกรในแต่ละระยะการเลี้ยงได้เนื่องจากตัวระบบเองต้องการการตรวจสอบจากผู้ใช้ระบบ
หัวใจสำคัญคือ ต้องปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับระยะการเลี้ยง
สิ่งสำคัญในฟาร์มสุกรขุน ถ้าเราสามารถทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการเลี้ยงสุกรนั่นหมายถึงปริมาณอาหารที่สุกรกินนำไปใช้เพื่อการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ (FCR) ได้ประสิทธิภาพสูงสุดไม่ต้องนำไปใช้เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับสุกร (อากาศหนาวสำหรับสุกร-Lower Critical) และไม่ต้องนำไปใช้ในการหอบเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย (อากาศร้อนสำหรับสุกร-Upper Critical) นั่นหมายถึงเราจะได้การเจริญเติบโต (ADG) ตามมาตรฐานหรืออาจมากกว่าอีกด้วย
สำหรับฟาร์มสุกรพันธุ์ นอกจากผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับสุกรขุนแล้ว การที่เราสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสำหรับความต้องการอย่างแท้จริงทั้งในระยะท้องว่าง-อุ้มท้องและเลี้ยงลูกแล้ว ยังทำให้สุกรกินอาหารได้ปริมาณตามความต้องการ สร้างสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง ให้ผลผลิตที่ดีทั้งด้านจำนวนรอบต่อปี ปริมาณของลูกสุกรและปริมาณน้ำนมที่มากเพียงพอต่อความต้องการของลูกสุกรซึ่งปัจจุบันลูกดกขึ้นมากกว่าในอดีต
และต้องไม่ลืมว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมมิใช่อุณหภูมิโรงเรือนแต่เป็นอุณหภูมิที่หมูรู้สึก (EET-Effective Environment Temperature) แล้ว EET คืออะไร >> โปรติดตามได้ตอนที่2
CR : โค้ชวิทธ์